รู้หรือไม่ครับว่า ? การลดน้ำหนักด้วยการอดอาหาร หรือการกินอาหารที่ให้พลังงานต่ำ อาจจะทำให้เกิดผลกระทบ ที่ทำให้การลดความอ้วน ไม่เป็นไปอย่างที่เราคิดได้นะครับ แล้วมันจะยิ่งทำให้ขั้นตอนการลดความอ้วน สลับซับซ้อน มีปัญหายากๆ ที่ทำให้น้ำหนักไม่ลดอย่างใจคิด ความอ้วนไม่หายไปอย่างใจอยาก เรื่องพวกนี้ไม่ใช่ไสยศาสตร์ครับ เราทำความเข้าใจ และหาคำอธิบายให้มันได้ ถ้าคุณเป็นคนนึง ที่กำลังต่อสู้อยู่ในสงครามกับความอ้วน แล้วหละก็ มาฟังบรรยาย ยุทธศาสตร์การพิชัยสงคราม เพื่อคุมชัยชนะไว้ในกำมือเราให้ได้ กันดีกว่าครับ
เหตุของปัญหา
เวลา ที่เราเริ่มลดน้ำหนัก ด้วยการอดอาหาร หรือกินอาหารที่มีแคลอรี่ต่ำ ร่างกายเราก็จะเริ่มรู้สึกเหมือนกับว่า เราอยู่ในภาวะที่กำลังจะอดอยาก ร่างกายไม่รู้แน่ชัดว่าในอนาคต จะอดอยากกว่านี้อีกมั๊ย เพื่อความแน่ใจ ไม่ให้เจ้าของร่างเนื้อนั้นตาย ร่างกายจึงเลือกที่จะเก็บสะสมไขมันไว้ให้มากที่สุด เพื่อว่าอย่างน้อยจะได้ใช้เป็นพลังงานในอนาคต กระบวนการนี้แหละ ครับ เป็นส่วนนึง ที่ทำให้การลดน้ำหนักด้วยวิธีที่ว่า มันจะยิ่งยากขึ้นเมื่อดำเนินไปในระยะนึง อีกทั้งยังมีผลทำให้มีการเปลี่ยนแปลง ระดับฮอร์โมนหลายอย่าง ซึ่งก็จะยิ่งทำให้ลดยากมากขึ้นอีกในที่สุด ทีนี้ถ้าเรายังลดน้ำหนัก ด้วยวิธีเดิมต่อมาอีกเป็นระยะเวลานานขึ้น ร่างกายเราก็จะมีการเปลี่ยนแปลงกระบวนการมากขึ้น โดยมันจะไปดึงเอา กล้ามเนื้อออกมา เพื่อใช้เป็นแหล่งพลังงาน เวลาที่มันดึงเอาโปรตีนออกมาใช้งาน มันจะมีกระบวนการทางเคมีเกิดขึ้น ซึ่งจะมีผลลัพธ์อย่างนึงออกมาเป็น "ไนโตรเจน" ซึ่งร่างกายเราก็จะหาทางกำจัดเจ้า ไนโตรเจน ที่ว่านี้ออกไป โดยปลดปล่อยไปกับน้ำ ที่ดึงออกจากเนื้อเยื่อเซลล์ต่างๆ ซึ่งจะส่งผลให้มีการสุญเสียมวลน้ำในร่างกาย และจะทำให้น้ำหนักตัวเราลดลงไปซึ่งตอนนั้นเอง เป็นช่วงเวลาที่หลายๆคน กำลังดีใจกระหยิ่มยิ้มย่อง ว่าฉันลดได้แล้ว.... แต่หารู้ไม่ว่า....
อันดับแรก น้ำหนักของมวลน้ำที่สูญเสียไปนั้น มันแค่ภาพลวงตาครับ เพราะมันพร้อมจะกลับมาเมื่อไหร่ก็ได้ ทันทีที่คุณดื่มอะไรซักอย่าง
อันดับที่สำคัญ ไอ้การที่เราต้องสูญเสียมวลกล้ามเนื้อ ไปกับการถูกเปลี่ยนมาเป็นพลังงาน นี่แหละจะไม่เป็นผลดีต่ออัตราเผาผลาญพลังงาน ในระยะยาว
ทำไมหละ ?
เพราะ ว่าไอ้กล้ามเนื้อนี่แหละครับ เป็นตัวที่ทำให้มีการกระตุ้นการเผาผลาญพลังงาน ร่างกายเราจะต้องใช้พลังงานจำนวนนึง ไปให้กับการรักษาสภาพของกล้ามเนื้อไว้ นั่นหมายความว่ายิ่งเรามีมวลกล้ามเนื้อในร่างกาย มากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งต้องใช้พลังงานมากขึ้นตลอดเวลา ไม่เว้นแม้แต่เวลานั่งหรือเวลานอน
ตัวอย่างนะครับ สมมุติว่ากล้ามเนื้อ 1 lbs จะใช้พลังงานวันๆนึง อย่างน้อย 50 cal (คิดเฉพาะนั่งเฉยๆทั้งวัน)แล้ว ถ้าเราเสียมวลกล้ามเนื้อไปซัก 10 lbs ไประหว่างที่เราอดอาหาร นั่นหมายถึงว่าวันๆนึง เราจะใช้พลังงานลดลงถึง 500 cal เชียวนะครับ แล้วถ้าเรายังกินเท่าเดิมอยู่ อย่างดีก็อาจจะแค่ถึงทางตัน คือลดไม่ลง แต่ถ้าเจออย่างเลวหละครับ ก็คืออาจจะอ้วน หรือมีไขมันสะสมเพิ่มมากขึ้นด้วยก็เป็นไปได้ ซึ่งก็คือ นน.ตัวอาจจะเท่าเดิม แต่กล้ามเนื้อลดลง ไขมันแอบๆสะสมเพิ่มขึ้น
ต่อจาก ตัวอย่างข้างต้นนะครับ อย่างที่รู้ๆกัน ก็คือคนอดอาหาร หรือลดอาหารใครจะไปคุมได้จนตาย ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ทีนี้พอเราอดอาหารจนเราได้นน.ตัวอย่างที่ต้องการแล้ว (โดยที่ กล้ามเนื้อสูญหายไปแยะเลย) แล้วเรากลับมากิน ตามแบบเดิมๆ ทีนี้หละครับ จะยิ่งอ้วนง่ายมากขึ้นกว่าเก่าเอง เพราะเราได้ทำลายเตาเผาพลังงาน ในร่างกายเราไปแล้ว ในการอดอาหารรอบแรก นี่แหละครับ บ่อยครั้งที่หลายคนเมื่ออดอาหาร แล้วพอหยุด มันเกิดอ้วนขึ้นมาเท่าเดิม หรือมากกว่าเดิมได้ไม่ยาก บางทีก็มีคนเรียกแบบนี้ว่าโยโย่... ทั้งหลายทั้งปวงก็เพราะสาเหตุข้างบนนี่แหละครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น