6/27/2554

ท่าบริหารสะโพก สวย กลมกลึง ราวกับนางแบบ!


Other Link
ลดน้ำหนักกับ Longderse ไม่ได้ผลยินดีคืนเงิน
บทความอื่นๆ

อีีกหนึ่งเคล็ดไม่ลับดี ๆ ที่ควรรู้กับท่าบริหารสะโพก ปัญหาต้นแขน ต้นขา หน้าท้อง ทั้งหมดนี้คือปัญหาที่แก้ไม่เคยตกและก็ยังเป็นเรื่องที่เป็นปัญหาใหญ่หลวงที่กลายเป็นอุปสรรคของคุณผู้หญิงส่วนมาก แต่มิใช่แค่นั้นเพราะว่ายังมีอีกหนึ่งอุปสรรคที่ไม่ควรมองข้ามกับส่วนเกินที่เกิดขึ้นตรงสะโพก จนทำให้กลายเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่สร้างความไม่มั่นใจให้กับคุณสาว ๆ ทั้งหลายอีกด้วย เพราะเรารู้ว่าปัญหาความงามและรูปร่างคือปัญหาใหญ่มาก ๆ ของคุณสาว ๆ วันนี้เราก็เลยนำเอาเทคนิคดี ๆ ที่เป็นเคล็ดไม่ลับมาแนะนำกันกับ ท่าบริหารสะโพก สาว ๆ คนไหนที่อยากจะรู้ว่า ท่าบริหารสะโพก ที่เรานำมาแนะนำเขามีวิธีการบริหารอย่างไร และยังจะช่วยให้สะโพกสวยกลมกลึงราวกับนางแบบจนคนที่คุณเคยอิจฉาเขาจะย้อนกลับมาอิจฉาคุณเอง ถ้าพร้อมแล้วเราก็ไปทำตามคำแนะนำกันเลยดีกว่านะค่ะ

4 ท่าบริหารสะโพก สวย กลมกลึง ราวกับนางแบบ

1. ยืนตัวตรงหันหน้าเข้ากำแพง

2. ใช้มือดันกำแพงไว้เพื่อทรงตัว แล้วยกข้อเท้าขวาวางไว้เหนือหัวเข่าซ้าย ค่อย ๆ ย่อตัวลงให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ อย่าลืมยืดหลังตรงเสมอ ค้างไว้ 10 วินาที

3. ทำเช่นนี้ติดต่อกัน 15 ครั้ง แล้วอย่าลืมว่าทุกครั้งที่ย่อตัวต้องเกร็งหน้าท้องเพื่อเก็บสะโพก

4. เมื่อครบ 15 ครั้งแล้ว ให้เปลี่ยนข้าง เอาข้อเท้าซ้ายวางเหนือเข่าขวาแล้วทำเหมือนเดิมให้ครบ 15 ครั้ง

วิธีง่าย ๆ ที่รับรองว่า สะโพกของคุณสาว ๆ จะกลมกลึงสวยเหมือนนางแบบได้แน่ ๆ แต่ต้องอดทนและมุ่งมั่นกันหน่อยนะจ๊ะ

Other Link
ลดน้ำหนักกับ Longderse ไม่ได้ผลยินดีคืนเงิน
บทความอื่นๆ

6/24/2554

วิธีกระชับเรียวขา เฟิร์ม สวย!

Other Link
ลดน้ำหนักกับ Longderse ไม่ได้ผลยินดีคืนเงิน
บทความอื่นๆ

วันนี้เรามีวิธีกระชับเรียวขา เฟิร์ม สวย มาฝากสำหรับคุณผู้หญิงที่อยากจะมีเรียวขาสวยได้อย่างมั่นใจค่ะ เชื่อว่าการมีเรียวขาที่สวยงดงามสมบูรณ์แบบนั้นใครๆ ก็ต้องการมี วันนี้เราจึงได้คัดสรรค วิธีกระชับเรียวขา เฟิร์ม สวย มาฝาก ให้คุณผู้หญิงทุกคนได้อวดเรียวขากันได้อย่างเต็มที่ที่กันเลยทีเดียวค่ะ เพราะปัจจุบันกางเกงขาสั้น กระโปรงสั้น หรือเดรสสั้นๆ กำลังได้รับความนิยมอย่างมาก หากว่าคุณนั้นมีเรียวขาที่ไม่มั่นใจคงแย่เลยจริงไหม ฉะนั้นแล้วหากอยากอวดเรียวอย่างมั่นใจก็ต้อง วิธีกระชับเรียวขา เฟิร์ม สวย ที่เรานำมาแนะนำกันในวันนี้เนี่ยแหละค่ะ สำหรับวิธีกระชับเรียวขา เฟิร์ม สวย นี้ก็ไม่ยุ่งยากแต่เพยงอย่างใดใช้เวลาเพียงสั้นๆ เท่านั้นฉะนั้นอดทนเพื่อเรียวขาที่งดงามกันหน่อยแล้ว

2 วิธีกระชับเรียวขา เฟิร์ม สวย


- ท่าแรก

ยืนแยกขาให้เท้าอยู่ในแนวเดียวกับไหล่ ถ้ามีดัมเบลให้ถือไว้ในลักษณะดังภาพ ถ้าไม่มีให้เอามือเท้าเอวไว้จากนั้นงอเข่าลงเป็นมุม 90 องศา เหมือนว่ากำลังนั่งเก้าอี้อยู่ โดยให้ส้นเท้าแนบกับพื้น ค้างไว้นับ 1-8 แล้วยืดตัวขึ้นยืนตรง ทำซ้ำท่าเดิมอีก 10 ครั้ง


- ท่าที่สอง

เริ่มจากการยืนตัวตรงแล้วค่อยๆ แยกขาออกจากกัน โดยเริ่มจากการงอเข่าขวาออกไปด้านข้าง หรือด้านหน้า (แล้วแต่ถนัด) จนเข่าขนานกับพื้น แต่อย่าให้เลยปลายเท้าออกไป ส่วนเท้าด้านซ้ายให้วางแนบสนิทกับพื้น ค้างไว้นับ 1-8 แล้วค่อย ๆ ขยับเท้ากลับมาสู่ท่ายืนตรงเหมือนเดิม ทำซ้ำสลับซ้าย-ขวา อย่างละ 5 ครั้ง ทำทั้ง 2 ท่า ทุกวันอย่างน้อย วันละ 2 ครั้ง คุณสาว ๆ ก็จะสามารถหยิบกางเกงขาสั้นกุดมาใส่อวดเรียวขาสวยได้อย่างไม่ต้องอายใครแล้วล่ะค่ะ

Other Link
ลดน้ำหนักกับ Longderse ไม่ได้ผลยินดีคืนเงิน
บทความอื่นๆ

6/21/2554

ลดน้ำหนักอย่างได้ผล ด้วย "เครื่องออกกำลังกาย"


Other Link
ลดน้ำหนักกับ Longderse ไม่ได้ผลยินดีคืนเงิน
บทความอื่นๆ

ใครอยากลดน้ำหนักอย่างได้ผลมาลองกับเครื่องออกกำลังกายของคุณดูซิค่ะ เครื่องออกกำลังกาย แต่ละชนิดก็มีการใช้งานที่แตกต่างกันแต่ก็สามารถที่จะช่วยลดน้ำหนักได้เช่นกัน ฉะนั้นใช้ เครื่องออกกำลังกาย ให้ถูกสัดส่วนรับรองว่าลดน้ำหนักอย่างได้ผลแน่นอนค่ะ และวันนี้เราก็จะมาแนะนำการออกกำลังกายด้วยเครื่องออกกำลังกายแก่ทุกคนที่อยากจะลดน้ำหนักอย่างได้ผลอีกด้วยค่ะ ที่สำคัญใช้เวลาเพียงน้อยนิดแค่ 30 นาทีเท่านั้นเอง คงจะไม่มากมายเกินไปที่จะทำให้ในการลดน้ำหนักอย่างได้ผลจริงไหมค่ะ นั้นเรามาเริ่มการออกกำลังกายในครั้งนี้เลยดีกว่าค่ะ

ลดน้ำหนักอย่างได้ผล ด้วย "เครื่องออกกำลังกาย 30 นาที"

1. ลู่วิ่งไฟฟ้า
เริ่มด้วยระดับความชัน 0 และความเร็วในระดับที่เดินได้สบาย ๆ
1 นาที เพิ่มความชันของเครื่องหนึ่งเปอร์เซ็นต์ หรือมากกว่านั้นทุก 15 วินาที ความเร็วในระดับปานกลาง
1 นาที ลดความชันลงหนึ่งเปอร์เซ็นต์ หรือมากกว่านั้นทุก 15 วินาที
3 นาที เดินหรือวิ่งด้วยฝีเท้าสม่ำเสมอ ความเร็วปานกลาง
ทำซ้ำทั้งหมดนี้ไปเรื่อย ๆ จนครบ 30 นาที หรือมากกว่านั้น
แคลอรีเผาผลาญโดยประมาณ 320 แคลอรี (สำหรับคนหนักราว 63 กก.)

2. อิลิปติคัลเทรนเนอร์
6 นาที ตั้งความชัน (ถ้ามี) และแรงต้านไว้ในระดับปานกลาง ความเร็วปานกลาง
2 นาที เพิ่มความชันและแรงต้าน 30 วินาที ความเร็วระดับ 6-8
2 นาที ลดความชันและแรงต้านลงในระดับสบาย ๆ
6 นาที เพิ่มความชันและแรงต้านในระดับปานกลางและหมุนขากลับหลัง ความเร็วปานกลาง
ทำซ้ำทั้งหมดนี้จนครบ 30 นาที
แคลอรีเผาผลาญโดยประมาณ 250-300 แคลอรี (สำหรับคนหนัก 63 กก.)

3. จักรยาน
5 นาที ปั่นด้วยความเร็วแบบสบาย ๆ
5 นาที เพิ่มความเร็วขึ้นและลดลงทุก 30 วินาที
5 นาที ปั่นแบบสบาย ๆ
5 นาที เพิ่มความเร็วขึ้นให้มากกว่าตอนแรกและลดลงทุก 30 วินาที
5 นาที ปั่นความเร็วแบบสบาย ๆ
5 นาที เพิ่มความเร็วและลดลงทุกหนึ่งนาที
แคลอรีเผาผลาญโดยประมาณ 245 แคลอรี (สำหรับคนหนักราว 63 กก.)

Tip
สำหรับการออกกำลังแต่ละอย่างควรจะวอร์มอัพสัก 5-10 นาที ด้วยการออกกำลังแบบคาร์ดิโอเบา ๆ และจับตาดูอัตราการเต้นของหัวใจเอาไว้แล้วจบด้วยการคูลดาวน์และยืดเส้นเสมอ

เมื่อลดน้ำหนักได้แล้วเราจำเป็นต้องออกกำลังมากแค่ไหนเพื่อไม่ให้น้ำหนักกลับมาขึ้นอีก

- การศึกษาวิจัยจำนวนมากชี้ว่าต้องใช้เวลาค่อนข้างมากถึงราว 90 นาทีต่อวัน แต่ในโลกแห่งความเป็นจริงคุณสามารถรักษาน้ำหนักไม่ให้ขึ้นอีกได้ด้วยการออกกำลังประมาณ 45 นาทีต่อวัน ถ้าคุณระวังเรื่องอาหารการกินและเพิ่มความหนักของการออกกำลังขึ้น

เริ่มต้นแต่เช้า

การกินอาหารที่อุดมด้วยสารอาหาร เช่น ข้าวโอ๊ต ซีเรียจธัญพืช ขนมปังโฮลวีต หลังจากตื่นได้ไม่นานจะปลุกระบบเผาผลาญของคุณและทำให้มันเดินไปเรื่อย ๆ โดยผลจากการศึกษาของ National Weight Control Registry ในสหรัฐฯ ที่ศึกษาอย่างต่อเนื่องในกลุ่มคน 5,000 คน ซึ่งลดน้ำหนักได้เฉลี่ย 66 ปอนด์และคงรักษาไว้ได้อย่างนั้นมากกว่า 5 ปี โดย 78% ของคนที่รักษาน้ำหนักไว้ได้นั้นกินอาหารเช้า

Other Link
ลดน้ำหนักกับ Longderse ไม่ได้ผลยินดีคืนเงิน
บทความอื่นๆ

6/20/2554

ต้นแขนใหญ่ทําไงดี? เรามี! "ท่าบริหารลดต้นแขน เฟิร์ม กระชับ มาฝาก"


Other Link
ลดน้ำหนักกับ Longderse ไม่ได้ผลยินดีคืนเงิน
บทความอื่นๆ

ต้นแขนใหญ่ทําไงดี? ต้นแขนใหญ่ทําไงดี? ปัญหานี้กำลังมีทางออกสำหรับคุณผู้หญิงแล้วค่ะ จะอะไรนะเหรอก็ท่าบริหารลดต้นแขน เฟิร์ม กระชับที่เรากำลังจะหยิบยกมาฝากกันนะซิค่ะ ด้วย ท่าบริหารลดต้นแขน เฟิร์ม กระชับ นี้คุณจะลืมคำถาม ต้นแขนใหญ่ทําไงดี? ไปเลยนะจะบอกให้ค่ะ ขอเพียงตั้งใจอะไรก็ทำได้จริงไหมค่ะ อย่างกับคำที่คุ้นหู เป้าหมายมีไว้พุ่งชน อิอิอิ ฉะนั้นแล้วใครอยากอวดเรียวแขนงาม เฟิร์ม กระชับ ไม่เด้งดึ๋งก็ต้องมาเริ่มจาก ท่าบริหารลดต้นแขน เฟิร์ม กระชับ ที่เรานำมาฝากกันในวันแล้วล่ะจ๊ะ เริ่มเร็วก็ลดเร็วนะจ๊ะจะบอกให้

ท่าบริหารลดต้นแขน เฟิร์ม กระชับ

1. ท่ายืดกล้ามเนื้อต้นแขน
- นอนราบกับพื้นมือขวาถือดัมเบลล์ขนาดเหมาะมือ เหยียดแขนขวาตั้งตรงใช้มือซ้ายยืดแขนขวาไว้ให้มั่นคง
- พันเฉพาะปลายแขนขวาลงช้า ๆ (ช่วงต้นแขนตั้งแต่หัวไหล่ถึงข้อศอกอยู่ในแนวเดิม) โดยวาดมือไปยังหัวไหล่ซ้าย จากนั้นยืดแขนขึ้นสู่ท่าเริ่มต้นทำซ้ำ 1-3 ชุด ชุดละ 8-12 ครั้ง แล้วสลับทำที่แขนอีกข้าง

2. ท่าต้นแขนเอียงลาด
- นั่งบริเวณขอบเก้าอี้มือจับขอบเก้าอี้ไว้โดยให้ช่วงมือห่างเท่าความกว้างของหัวไหล่ หันนิ้วมือไปทางด้านหน้าจากนั้นเลื่อนสะโพกโดยก้าวเท้าไปข้างหน้าให้พ้นจากที่นั่งกระทั่งเข่างอตั้งฉากกับพื้น 90 องศา
- ลดระดับสะโพกลงซึ่งจะทำให้หัวไหล่ลดระดับลงด้วยท่านี้จะทำให้ต้นแขนเอียงลาดและข้อศอกชี้ไปทางด้านหลัง จากนั้นกลับสู่ท่าเริ่มต้นทำซ้ำ 1-3 ชุด ชุดละ 8-12 ครั้ง

3. ท่าวิดพื้น
- คุกเข่าโดยเหยียดแขนตรงตั้งฉากกับพื้นหัวเข่าอยู่ในแนวเดียวกับสะโพกและเกร็งหน้าท้องไว้
- ลดระดับหน้าอกลงสู่พื้นโดยให้ข้อศอกแนบลำตัวไว้ตลอดเวลาค้างไว้ชั่วครู่ จากนั้นกลับสู่ท่าเริ่มต้นทำซ้ำ 1-3 ชุด ชุดละ 8-12 ครั้ง

ลองนำไปปฏิบัติกันดูนะคะแต่ต้องกระซิบให้ทราบสักนิดว่าถึงจะบริหารให้กระชับยังไง โดยธรรมชาติแล้วกล้ามเนื้อหลังต้นแขนจะแกว่งเล็กน้อยเวลาที่คุณเคลื่อนไหวแขนไปมาจึงไม่ต้องวิตกกังวลนะคะ เอาล่ะค่ะ...หมดเวลาปกปิดต้นแขนด้วยเสื้อแขนยาวรุ่มร่ามกันแล้ว

Other Link
ลดน้ำหนักกับ Longderse ไม่ได้ผลยินดีคืนเงิน
บทความอื่นๆ

6/19/2554

วิธีลดไขมัน "สูตรเด็ดที่คุณห้ามพลาด!"


Other Link
ลดน้ำหนักกับ Longderse ปรึกษาฟรี
บทความอื่นๆ

วันนี้เราพาคุณผู้หญิงอยากหุ่นดี หุ่นสวย มารู้จักกับสูตรเด็ดวิธีลดไขมันแบบได้ผล หากว่าคุณตั้งใจอะไรก็ทำได้จริงไหมค่ะ แต่ วิธีลดไขมัน นี้จะเป็นอีกหนึ่งแนวทางและตัวช่วยที่จะทำให้คุณผู้หญิงได้ไปถึงเป้าหมายที่วางไว้ได้เร็วยิ่งขึ้น มีคนเคยพูดไว้ว่า "ผู้หญิงไม่สวยไม่มีหรอก มีแต่ผู้หญิงขี้เกียจเท่านั้น" ฉะนั้นแล้วหากคุณผู้หญิงไม่ขี้เกียจอะไรก็ย่อมสำเร็จ ดังเช่นที่ว่า คุณผู้หญิงนั้นอยากมีรูปร่างที่ดี หุ่นสวย ผอมเพรียว เชื่อว่าคุณผู้หญิงทุกคนย่อมทำได้จริงไหมค่ะ ฉะนั้นแล้วเรามี วิธีลดไขมัน ซึ่งเป็นสูตรเด็ดตัวช่วยที่คุณห้ามพลาดเพื่อช่วยให้คุณสำเร็จได้เร็วขึ้นนะค่ะ

4 วิธีลดไขมัน เด็ด เด็ด เด็ด!

1. เล่นโยคะตอนเช้า เพียงแค่ 15 นาที การเล่นโยคะในตอนเช้าจะทำให้ร่างกายได้รับออกซิเจนมากขึ้นการย่อยดีขึ้น ทั้งหมดนำไปสู่การเผาผลาญไขมันและแคลอรีที่มากขึ้นและสุขภาพจิตจะดีไปตลอดทั้งวันด้วย

2. ท้าทายตัวเองสัปดาห์ละอย่าง การออกกำลังเพื่อให้ตัวเองแข็งแรงและดูดีไม่ได้ผลดีเท่ากับการออกกำลังอย่างมีเป้าหมาย เพราะการตั้งเป้าหมายจะทำให้คุณฝึกตัวเองเต็มที่ขึ้น ลองตั้งเป้าหมายในแต่ละสัปดาห์ เช่น การวิ่งขึ้นลงบันไดอย่างรวดเร็ว 10 รอบ แข่งเทนนิสหรืออกกำลังกายที่คุณไม่เคยลองมาก่อน เช่น เต้นระบำหน้าท้อง หรือชกมวย

3. ยกน้ำหนักพร้อมคาร์ดิโอ การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอสลับวันกับการยกน้ำหนักเป็นเรื่องดี แต่การออกกำลังแบบคาร์ดิโอสัก 20-30 นาที ด้วยความหนักที่หลากหลายกันหลังการยกน้ำหนักจะช่วยเผาผลาญไขมันในระหว่างนั้นและหลังจากนั้นอีกหลายชั่วโมง ลองวอร์มอัพด้วยการออกกำลังแบบคาร์ดิโอสัก 7 นาที ตามด้วยการยกน้ำหนัก 40 นาที และออกกำลังแบบอินเทอร์วัลอีก20 นาที มันจะช่วยคุณเผาผลาญไขมันได้สูงสุดในเวลาน้อยที่สุด

4. สั้นและหนักหน่วง หมดสมัยของการออกกำลังหรือยกน้ำหนักนาน ๆ แล้ว ทุกวันนี้เป็นเรื่องการออกกำลังแบบสั้น ๆ แต่มีประสิทธิภาพ การศึกษาที่ตีพิมพ์ใน Journal of Sports Medicine and Physical Fitness ชี้ว่า การยกน้ำหนักแบบหนัก ๆ ในช่วงสั้น ๆ ทำให้กล้ามเนื้อพัฒนาดีขึ้น 50 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับการยกน้ำหนักตามปกติ และทำให้มีกล้ามเนื้อที่ปราศจากไขมันมากกว่า

Other Link
ลดน้ำหนักกับ Longderse ปรึกษาฟรี
บทความอื่นๆ

6/18/2554

วิธีลดน้ำหนักด้วยตัวเอง "หุ่นสวย หุ่นผอมเพรียว"


Other Link
ลดน้ำหนักกับ Longderse ปรึกษาฟรี
บทความอื่นๆ

วันนี้เราพาคุณผู้หญิงมารู้จักกับวิธีลดน้ำหนักด้วยตัวเองเพื่อหุ่นสวย หุ่นผอมเพรียว กันค่ะ ใครจะรู้ดีว่าผู้หญิงมีความต้องการในเรื่องลดน้ำหนักได้ดีขนาดไหน นอกจากผู้หญิงอย่างเราที่ต้องการลดน้ำหนักเพื่อให้มีหุ่นสวย หุ่นผอมเพรียว จริงไหมค่ะ ฉะนั้นจึงมี วิธีลดน้ำหนักด้วยตัวเอง มากมายที่ผลุดขึ้นมามากมายที่มีทั้งดีและไม่ได้ แต่วันนี้เราอยากจะแนะนำอีก 6 วิธีลดน้ำหนักด้วยตัวเอง ที่จะช่วยให้คุณผู้หญิงมี หุ่นสวย หุ่นผอมเพรียว ได้สมใจ แต่งานนี้ต้องขึ้นอยู่ที่คุณแล้วล่ะค่ะ เพราะว่า วิธีลดน้ำหนักด้วยตัวเอง ของเราในวันนี้นั้นขอบอกเลยค่ะว่าเป็นวิธีที่ง่ายมาก ๆ และนอกจากนี้ยังไม่มีการเน้นเรื่องการอดอาหารหรือการออกกำลังกายแต่อย่างใดอีกด้วยฉะนั้นหลาย ๆ คนสบายใจกันได้เลยค่ะ นั้นเรามาดูวิธีลดน้ำหนักด้วยตัวเองกันเลยดีกว่าจะได้นำไปปรับใช้ได้ทันถ่วงทีค่ะ

6 วิธีลดน้ำหนักด้วยตัวเอง

วิธีที่ 1 คือ การชั่งน้ำหนักทุกวัน มหาวิทยาลัยมินนิโซตาสำรวจผู้ใหญ่ที่พยายามลดน้ำหนัก 1,800 คน พบว่าผู้ที่ชั่งน้ำหนักทุกวันสามารถลดส่วนเกินไปได้เฉลี่ย 12 ปอนด์ ตลอด 2 ปี เทียบกับการชั่งน้ำหนักเป็นรายสัปดาห์ที่ลดได้ 6 ปอนด์ เพราะตัวเลขบนตาชั่งจะช่วยให้คุณรู้ว่าควรจะทำอย่างไร หากน้ำหนักเริ่มขึ้นก็อาจถึงเวลาที่จะต้องหลีกเลี่ยงของหวาน

วิธีที่ 2 ดูทีวีไม่เกิน 2 ชั่วโมงต่อวัน เพราะการนั่งติดขอบจอเป็นกิจกรรมที่ไม่ก่อให้เกิดการเผาผลาญแคลอรี และยังนั่งนิ่งเป็นเป้าของโฆษณาอาหารจังก์ฟู้ดที่ออนแอร์อยู่ตลอด โดยผู้ใหญ่ที่ดูทีวีเกิน 2 ชั่วโมงต่อวัน มีแนวโน้มจะเพิ่มแคลอรีจากการกินขนมขบเคี้ยว 7% เทียบกับผู้ที่ดูทีวีไม่ถึง 2 ชั่วโมง

วิธีที่ 3 กินไฟเบอร์ทุกมื้อ เพราะอาหารที่มีไฟเบอร์สูงจะมีแคลอรีต่ำกว่าและไม่ทำให้โหย จากการศึกษาของมหาวิทยาลัยทัฟส์พบว่า ผู้หญิงที่กินไฟเบอร์ 13 กรัม ในแต่ละวันหรือน้อยกว่านั้นมีโอกาสที่จะน้ำหนักเกินมากกว่าเมื่อเทียบกับผู้หญิงที่กินไฟเบอร์มากกว่า

วิธีที่ 4 นอนหลับอย่างน้อย 7 ชั่วโมง เพราะผลศึกษาของมหาวิทยาลัยชิคาโกพบว่า คนที่นอนน้อยจะมีระดับฮอร์โมนที่ควบคุมการเจริญอาหารต่ำทำให้มีความเสี่ยงที่จะอ้วน โดยคนที่นอนหลับ 4 ชั่วโมง หรือน้อยกว่านั้นจะมีโอกาสอ้วนมากกว่าคนที่นอน 7 ชั่วโมง ถึง 234%

วิธีที่ 5 ดื่มน้ำ 8 แก้วต่อวัน เพราะน้ำมีส่วนช่วยเร่งกระบวนการเผาผลาญเร็วขึ้นโดยไม่เพิ่มแคลอรีแก่ร่างกาย แต่นำแคลอรีไปใช้

วิธีที่ 8 อย่าทำงานเกิน 8 ชั่วโมงต่อวัน มหาวิทยาลัยเฮลซิงกิพบว่า ผู้ที่มีน้ำหนักเพิ่มมักจะทำงานล่วงเวลาซึ่งทำให้ไม่มีเวลากินอาหารและออกกำลังกาย รวมทั้งความเครียดก็ส่งผลต่อน้ำหนักที่เพิ่มขึ้น

Other Link
ลดน้ำหนักกับ Longderse ปรึกษาฟรี
บทความอื่นๆ

6/17/2554

สูตรเครื่องดื่มลดน้ำหนัก "แบบธรรมชาติได้หุ่นสวย"


Other Link
ลดน้ำหนักกับ Longderse ปรึกษาฟรี
บทความอื่นๆ

วันนี้เรามีสูตรเครื่องดื่มลดน้ำหนักแบบธรรมชาติได้หุ่นสวยมาฝากคุณผู้หญิงกันอีกแล้วค่ะ สำหรับ สูตรเครื่องดื่มลดน้ำหนัก นี้ก็จะเป็น สูตรเครื่องดื่มลดน้ำหนัก แบบขั้นตอนง่ายแต่ได้หุ่นสวยสมใจ ใครอยากรู้ว่า สูตรเครื่องดื่มลดน้ำหนัก นี้จะได้ผลมากน้อยเพียงใดต้องมาลองทำสูตรเครื่องดื่มลดน้ำหนักนี้กันเองแล้วค่ะ นอกจากสูตรเครื่องดื่มลดน้ำหนักนี้จะช่วยลดน้ำหนักได้แล้วยังช่วยขจัดสารพิษในร่างกายของคุณได้อีกด้วยค่ะ นอกจากจะได้หุ่นสวยแล้วยังได้สุขภาพดีพวงมาด้วย

2 สูตรเครื่องดื่มลดน้ำหนัก

1. สูตรเครื่องดื่มลดน้ำหนัก : สตรอเบอร์รี่
สตรอเบอร์รี่ผสมราสป์เบอร์รี่ช่วยให้หุ่นดีเพราะมีวิตามินซี และโพแทสเซียม ช่วยขจัดไขมัน

ส่วนผสม : ต้มชาผลไม้ 500 กรัม ปล่อยให้เย็น เทชาผลไม้ออกครึ่งหนึ่งแล้วใส่น้ำแข็งลงไปใส่สตรอเบอร์รี่และแอปริคอตหั่นชิ้นเล็ก ๆ อย่างละ 50 กรัม ราสป์เบอร์รี่ 5 ลูก ผสมกับน้ำผึ้ง 1 ช้อนชา

2. สูตรเครื่องดื่มลดน้ำหนัก : สับปะรด
น้ำสับปะรดให้รสอร่อย และยังช่วยลดความอ้วน เพราะสับปะรดช่วยขจัดน้ำและสารพิษในร่างกาย และกล้วยทำให้อิ่มนาน

ส่วนผสม : หั่นกล้วย 1 ผล น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ มะพร้าวขูด 1 ช้อนโต๊ะ น้ำสับปะรด 200 มิลลิกรัม แล้วปั่นเข้าด้วยกัน

Other Link
ลดน้ำหนักกับ Longderse ปรึกษาฟรี
บทความอื่นๆ

6/16/2554

แผนการลดความอ้วน อย่างได้ผล! สูตรสำเร็จของการไดเอ็ต


Other Link
ลดน้ำหนักกับ Longderse ปรึกษาฟรี
บทความอื่นๆ

จะไดเอ็ตกันทั้งทีควรจะวางแผนการลดความอ้วนกันสักหน่อยเพื่อให้ได้สูตรสำเร็จของการไดเอ็ตอย่างได้ผลที่คุณพึงพอใจ หากว่าคุณคิดถึง แผนการลดความอ้วน ไม่ออกลองหันมามองเรากันสักหน่อยแล้วคุณได้ทางออกของ แผนการลดความอ้วน ในครั้งนี้ค่ะ แล้วต่อไปเรื่องน้ำหนักตัวของคุณอาจจะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป ที่สำคัญเรื่องการลดความอ้วนอาจจะกลายเป็นเรื่องที่ง่ายดายสำหรับคุณเลยทีเดียวล่ะค่ะ คุณพร้อมที่จะวางแผนการลดความอ้วนไปพร้อมกับเราแล้วรึยังค่ะ ถ้าพร้อมแล้วมาดูแผนการลดความอ้วนกันได้เลยค่ะ

แผนการลดความอ้วน อย่างได้ผล!

1. จำไว้ว่ายิ่งคุณจัดหนักกับมื้อเช้ามากเท่าไหร่ อัตราการเผาผลาญและการลดไขมันก็ยิ่งมีประสิทธิภาพ โดยอาจกินไข่กับขนมปังโฮลวีต โยเกิร์ตกับมูสลี่และผลไม้หรือนมพร่องมันเนยกับผลไม้พวกเบอร์รี่และโปรตีนเชค

2. ลองดื่มชาเขียวหลังกินอาหารทุกมื้อ เพื่อช่วยสร้างการเผาผลาญไขมันและรับมือกับความอยากของหวาน

3. ใช้เวลาอย่างน้อยสัปดาห์ละครึ่งชั่วโมง ถ้าจะให้ดีคือ ตอนดื่มกาแฟยามเช้าวันจันทร์เพื่อวางแผนในการควบคุมอาหารแต่ละมื้อรวมทั้งของว่างไว้ล่วงหน้า จำไว้ว่าการวางแผนจะทำให้คุณลดน้ำหนักได้ถึงเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เมื่อคุณมีเมนูที่ต้องการไว้พร้อมในแต่ละสัปดาห์

4. เราทุกคนควรได้รับประทานผักหรือสลัดอย่างน้อย วันละ 3 ถ้วยตวง ในมื้อกลางวันควรมีสลัดอยู่ครึ่งหนึ่งรวมทั้งช่วงของว่างและก่อนอาหารเย็น โดยเตรียมผักสลัดใส่ถ้วยแช่ตู้เย็นไว้เพื่อความสดใหม่ ให้คุณได้กินพร้อมกันทั้งครอบครัว

5. สำหรับของว่าง พยายามจำกัดปริมาณคาร์โบไฮเดรตทั้งหมดไม่ควรเกิน 30 กรัม และมีโปรตีนอย่างน้อย 5 กรัม เพื่อให้ได้แป้งน้อยลง ซึ่งโปรตีนจะยังช่วยให้คุณรู้อิ่มได้โดยไม่ต้องเพิ่มแคลอรีเกินกว่าที่กำหนดไว้

6. ตั้งเป้าไว้ว่าจะหาของกินทุก 3-4 ชั่วโมงในระหว่างวัน เพื่อกระตุ้นเมตาบอลิซึ่ม

7. โปรตีนเชคเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับชดเชยพลังงานหลังออกกำลังกาย หรือชาร์จพลังช่วงเช้ารวมทั้งของว่างเหมาะกับคนที่มีไลฟ์สไตล์รีบเร่งในแต่ละวัน

8. กินผักสด ๆ เป็นของว่าง จะทำให้คุณได้รับวิตามิน และแร่ธาตุ นอกจากนี้ยังช่วยไม่ให้คุณหิวปั่นป่วนในช่วงบ่ายได้

9. ย้ำอีกครั้งว่าการวางแผนนำไปสู่ความสำเร็จในการความอ้วน พกพาของว่างโปรตีนสูงติดตัวไปด้วย เพื่อที่คุณจะได้ไม่ต้องสรรหาของกินแคลอรีสูงมาระงับความหิว

10. หากคุณได้รับสารอาหารจากผักและโปรตีนมากเพียงพอในมื้อกลางวัน คุณก็มีแนวโน้มที่จะเกิดอาการหิวขนมหวาน ๆ ในตอนบ่ายน้อยลง

นอกจากนี้ คุณยังสามารถเลือกขนมเพื่อสุขภาพที่ใช้นมถั่วเหลืองแทนนมสดและมีเป็นสูตรโลว์ชูการ์ได้ด้วยนะ การเปลี่ยนหรือลดอาหารและขนมที่คุณกินตามปกติในแต่ละวันก็มีผลให้ตัวเลขบนตาชั่งลดลงจนคุณแปลกใจเลยล่ะ แม้ว่าอาจต้องใช้เวลาสักหน่อยก็ตาม

Other Link
ลดน้ำหนักกับ Longderse ปรึกษาฟรี
บทความอื่นๆ

สลัดผักลดน้ำหนัก ได้จริงหรือ?


Other Link
ลดน้ำหนักกับ Longderse ปรึกษาฟรี
บทความอื่นๆ

สลัดผักลดน้ำหนักได้จริงหรือ? เป็นอีกหนึ่งคำถามยอดฮิตของคุณผู้หญิงที่กำลังจะลดน้ำหนักกันเลยทีเดียวค่ะ ก่อนการเริ่มต้นที่จะลดน้ำหนักหรือลดความอ้วนนั้นคุณผู้หญิงมักจะเลือกใช้และคิดถึง สลัดผักลดน้ำหนัก เป็นอันดับแรกเลย แต่ก็ยังมีหญิงสาวหลายท่านที่ยังคงกังวลใจว่า สลัดผักลดน้ำหนัก ได้จริงหรือ? และวันนี้เราก็มีคำตอบของสลัดผักลดน้ำหนักมาฝากให้คุณผู้หญิงได้คลายสงสัยถึงเรื่องเหล่านี้เพื่อจะได้เป็นการปูแนวทางการลดน้ำหนักและลดความอ้วนได้อย่างถูกวิธีค่ะ นั้นเรามาดูคำตอบกันดีกว่าค่ะว่าสลัดผักลดน้ำหนักได้จริงหรือ?

สลัดผักลดน้ำหนัก ได้จริงหรือ? มีคำตอบ!

สลัดอาจจะเป็นอาหารที่มีประโยชน์มากชนิดหนึ่งแต่ก็อาจจะเป็นอาหารที่แย่พอ ๆ กับอาหารฟาสต์ฟู้ด เช่น เฟรนฟรายด์ หรือเบอร์เกอร์ได้เหมือนกัน เพราะสิ่งที่คุณใส่ลงไปในจานเหล่านั้นมีปริมาณแคลอรีมากนั่นเอง โดยเฉพาะชีสแข็ง เบคอนกรอบ รวมทั้งน้ำสลัดครีมที่จะทำให้คุณมีแคลอรีสูงเกินไป หากต้องการจะลดน้ำหนัก แต่ผักอย่างมะเขือเทศ เห็ด หรือพริกหวาน ก็มีประโยชน์ต่อร่างกายไม่น้อยทีเดียว

ฉะนั้นแล้ว สลัดสามารถเป็นอะไรตามที่คุณอยากให้เป็นได้ หากคุณเลือกทานให้ถูกต้องก็จะช่วยลดน้ำหนักให้คุณได้ค่ะ แต่หากคุณตักสลัดกองสุมเป็นภูเขาเมื่อคุณทานในร้านอาหารคงไม่ใช่ทางออกที่ดีของการลดน้ำหนักอย่างแน่นอน

Other Link
ลดน้ำหนักกับ Longderse ปรึกษาฟรี
บทความอื่นๆ

6/13/2554

กินอะไรลดความอ้วน? ต้อง "เทคนิคลดความอ้วน" นี่ไง...!


Other Link
ลดน้ำหนักกับ Longderse ปรึกษาฟรี
บทความอื่นๆ

กินอะไรลดความอ้วน? ใครอยากรู้ต้องมาเจอกับเทคนิคลดความอ้วนของเราในวันนี้อยากจะบอกเล่าให้เราชาวคนอยากลดความอ้วนและลดน้ำหนักได้ฟังกันซะจริงๆ เลยล่ะค่ะ เทคนิคลดความอ้วน ของเราในวันนี้ก็ยังไม่ยากกันอีกเช่นเคยเพราะว่าขึ้นอยู่ที่เรื่องกิน...กินและก็กินกันอีกเหมือนเดิมเลยล่ะจ้าค่ะ คำถาม กินอะไรลดความอ้วน?...กินอะไรลดความอ้วน? คำตอบของ เทคนิคลดความอ้วน ในวันนี้อยากจะของแนะนำและเชิญชวนให้คนที่กำลังอยากจะลดน้ำหนักและความอ้วนมาลองกินเต้าหู้กันค่ะ หลายท่านอาจจะแปลกใจว่า เทคนิคลดความอ้วนด้วยเต้าหู้มีด้วยเหรอแล้วมันจะใช้ได้ผลจริงอะเปล่า นั้นถ้าอยากรู้เทคนิคลดความอ้วนด้วยเต้าหู้นี้คงต้องมาลองดูกันสักตั้งแล้วล่ะค่ะ เรียกได้ว่าไม่ลองไม่รู้จริงไหมจ๊ะ

เทคนิคลดความอ้วน ด้วย เต้าหู้

เมื่อเอ่ยถึงเต้าหู้...คงจะนึกไปถึงอาหารมังสวิรัติเสียเป็นส่วนใหญ่ แต่อันที่จริงแล้วแม้ว่าจะไม่ได้เป็นมังสวิรัติก็ควรรับประทานเต้าหู้กันบ้างอย่างน้อยๆ สักอาทิตย์ละ 2 - 3 มื้อก็ยังดี เพราะว่าในเต้าหู้นั้นมีสารอาหารที่เป็นประโยชน์มากมาย เช่น วิตามินบี ธาตุเหล็ก แคลเซียม และกรดอะมิโน เรียกได้ว่าให้โปรตีนครบถ้วน แถมยังย่อยง่ายกว่าเนื้อสัตว์เสียอีก

ส่วนคุณผู้หญิงคนไหนที่กำลังควบคุมน้ำหนักอยู่ก็ขอแนะนำเลยนะ เพราะว่าเมื่อทานเต้าหู้เข้าไปแล้วคุณจะรู้สึกอิ่มนานขึ้นทำให้ไม่อยากทานของจุกจิกระหว่างมื้ออาหาร ถ้าจะให้ดีควรเลือกทานเต้าหู้ที่มีเนื้อนิ่มจะดีกว่าเพราะว่ามีไขมันน้อยกว่าเต้าหู้แบบแข็ง แต่ว่าถึงจะมีไขมันก็เป็นไขมันแบบไม่มีคอเลสเตอรอลนะ เห็นมั้ยค่ะว่าเต้าหู้มีประโยชน์มากมายเลย เพราะฉะนั้นในมื้อต่อๆ ไปที่อยากจะลดความอ้วนก็อย่าลืมเทคนิคลดความอ้วนเมนูที่ทำจากเต้าหู้ไปลองใช้กันนะค่ะ

Other Link
ลดน้ำหนักกับ Longderse ปรึกษาฟรี
บทความอื่นๆ

เมนูลดน้ำหนักที่ได้ผล! ด้วยสูตรนี้!


Other Link
ลดน้ำหนักกับ Longderse ปรึกษาฟรี
บทความอื่นๆ

สาวไหนอยากได้เมนูลดน้ำหนักที่ได้ผลมาดูสูตรนี้กันเลยค่ะ เพราะว่านอกจากจะเป็น เมนูลดน้ำหนักที่ได้ผล แล้วยังเป็นเมนูลดน้ำหนักที่มีประโยชน์มากๆ อีกด้วย ฉะนั้นขอแนะนำ เมนูลดน้ำหนักที่ได้ผล นั่นก็คือ เมนูแครอทนั่นเองค่ะ และวันนี้้เราก็มีหลากหลายเมนูของแครอทมากมายให้คุณได้เลือกนำไปปรับใช้ให้ได้ เมนูลดน้ำหนักที่ได้ผล อย่างสูงสุด ฉะนั้นคุณผู้หญิงที่ต้องการจะลดหนักอย่างจริงจังก็ลองนำเมนูนี้ไปใช้กันอย่างเคร่งครัดดูก็แล้วกันนะจ๊ะ นั้นเรามาดูกันเลยดีกว่าค่ะว่าเมนูลดน้ำหนักที่ได้ผลนี้มีอะไรกันบ้างเอ่ย...

เมนูลดน้ำหนักที่ได้ผล ด้วยผลแครอท

1. ต้มและบดให้ละเอียดเป็นเนื้อเดียวกันราดน้ำซอสทานเป็นของว่างระหว่างมื้อ

2. ทำเป็นเค้กแครอตฉลองวันเกิดแบบสุขภาพดีแทนที่เค้กช็อกโกแลต

3. มื้อเย็นวันนี้ลองเลือกเป็นข้าวผัดมังสวิรัติที่ใส่แครอตขูดฝอยเยอะๆ น่าจะดี

4. ง่ายๆ กับการใส่แครอตเป็นส่วนผสมหนึ่งในจานสลัด

5. หั่นแครอตใส่ในซูชิคำโตคู่กับอะโวคาโดก็ได้ข้าวปั้นหน้าไดเอ็ตแสนอร่อย

6. เพิ่มคุณค่าให้ซีเรียลอาหารเช้าด้วยการเติมแครอตชิ้นเล็กๆ ลงไปในนม

7. ทำเป็นแครอตดองเก็บไว้ทานยามหิวได้

8. ต้มแครอตจนเปื่อยและบดผสมเข้ากับมันฝรั่งบดเสิร์ฟเป็นออเดิร์ฟก่อนอาหารจานหลัก

9. ของว่างสุดเจ๋งโยเกิร์ตผสมแครอต

10. แซนด์วิชคำต่อไปขอมีไส้แครอตเป็นส่วนผสมเข้าไปด้วย

Other Link
ลดน้ำหนักกับ Longderse ปรึกษาฟรี
บทความอื่นๆ

6/12/2554

น่ารู้! "แคลอรี่อาหาร" ลดความอ้วนด้วย "แคลอรี่ออกกําลังกาย"


Other Link
ลดน้ำหนักกับ Longderse ปรึกษาฟรี
บทความอื่นๆ

วันนี้เราพาคุณมารู้เรื่อง แคลอรี่อาหารเพื่อจะได้ลดความอ้วนและลดน้ำหนักกันอย่างรวดเร็วด้วยการขจัดไขมันด้วยการรู้ตัวเลข แคลอรี่ออกกําลังกาย เพื่อจะได้เป็นตัวช่วยอย่างดีในการลดความอ้วนของคุณค่ะ และหากอยากจะลดน้ำหนักหรือลดความอ้วนอย่างได้ผลสิ่งแรกเลยที่ควรจะรู้ไว้ก็คือ แคลอรี่อาหาร นั่นเองค่ะ เมื่อคุณได้รู้ แคลอรี่อาหาร แล้วคุณจะได้เลือกการกินของคุณได้อย่างถูกต้องอีกด้วยค่ะ และเมื่อได้รู้เรื่อง แคลอรี่อาหารแล้วสิ่งต่อไปที่ควรรู้ก็คือ แคลอรี่ออกกําลังกาย นั่นเองค่ะ เพราะเมื่อคุณได้รู้เรื่อง แคลอรี่ออกกําลังกาย แล้วคุณก็จะได้รู้ว่าควรจะออกกำลังอย่างไรถึงจะเป็นผลดีมากที่สุดและลดน้ำหนักได้มากที่สุดอีกด้วยค่ะ

"แคลอรี่อาหาร" ลดความอ้วนด้วย "แคลอรี่ออกกําลังกาย"

เริ่มแรกมาดูกันก่อนว่าการออกกำลังแต่ละแบบจะสลายแคลอรี่ไปเท่าไหร่
- พลังงานที่ใช้ คิดเป็นต่อ 1 ชั่วโมง
- อัตตราการสลายพลังงานคิดเทียบกับคนน้ำหนัก 50-60 กิโลกรัม ถ้ามีน้ำหนักมากกว่านี้พลังงานที่ใช้ก็จะมากขึ้นตามไปด้วย

แคลอรี่ออกกําลังกาย

1. นอนหลับ นอนเกลือกกลิ้ง พลังงานที่ใช้ 60 แคลอรี่
2. นั่งดูทีวี นั่งเล่นคอมพิวเตอร์ พลังงานที่ใช้ 90 แคลอรี่
3. เดินชมวิว พลังงานที่ใช้ 120 แคลอรี่
4. งานบ้าน พลังงานที่ใช้ 150-200 แคลอรี่
5. แบดมินตัน พลังงานที่ใช้ 350 แคลอรี่
6. วิ่งเหยาะๆ พลังงานที่ใช้ 500 แคลอรี่

แคลอรี่อาหาร

ต่อมามาดูอาหารการกินกัน่อ เราเลือกเมนูที่น่าจะกินกันบ่อยๆ มาเขียนนะ
1. ขนมปังขาว 1 แผ่น มีพลังงาน 70 แคลอรี่
- เผาผลาญด้วย การนอนเล่น 1 ชั่วโมง ก็สลายหมดแล้วจ๊ะ

2. ชา กาแฟ ใส่นม 1 แก้ว มีพลังงาน 100-150 แคลอรี่
- ความจริงแล้ว ชา กาแฟ แทบไม่มีแคลอรี่เลยแต่แคลอรี่ทั้งหมดมาจาก น้ำตาล นม ครีมเทียม แต่ถ้าใครกินวิปครีมก็ต้องบวกเพิ่มไปอีก 200 แคลอรี่
- เผาผลาญด้วย การนั่งกับนอนอย่างละ 1 ชั่วโมง

3. ก๋วยเตี๋ยวต้มยำ มีพลังงาน 350 แคลอรี่
- วุ้นเส้นกับเส้นหมี่ให้พลังงานน้อยสุด ส่วนเส้นใหญ่ให้พลังงานมากสุด
- เผาผลาญด้วย เดินเล่น ทำงานบ้านอย่างละ 1 ชั่วโมง

4. มั่นฝรั่งทอดกรอบ 1 ถุงใหญ่ (ประมาณ 80 กรัม) มีพลังงาน 400 แคลอรี่
- เผาผลาญด้วย ตีแบด และนั่งดูทีวี

5. ข้าวราดกระเพราไก่ ไข่ดาว มีพลังงาน 550 แคลอรี่
- ที่แคลอรี่เยอะเพราะว่าผัดด้วยน้ำมันแถมไข่ดาวก็ทอดด้วยน้ำมันอีก
- เผาผลาญด้วย วิ่งไม่หยุด 1 ชั่วโมง

6. พิซซ่าชิ้นใหญ่ 2 ชิ้น มีพลังงาน 700 แคลอรี่
- เผาผลาญด้วย วิ่งไม่หยุด 1 ชั่วโมง แล้วต่อด้วยนั่งดูทีวีอีก 2 ชั่วโมง

7. ฟาสต์ฟู้ด 1 ชุด (สะโพกไก่ทอดชิ้นใหญ่ บวก เฟรนซ์ฟราย บวก น้ำอัดลม) มีพลังงาน 900 แคลอรี่
- สโพกเป็นเนื้อส่วนที่มีไขมันเยอะมีพลังแคลอรี่ประมาณ 300 แคลอรี่ ส่วนเฟรนซ์ฟรายมีทั้งแป้งทั้งทอดมีพลังแคลอรี่ 450 แคลอรี่
- 1. เผาผลาญด้วย วิ่งไม่หยุด 2 ชั่วโมง
- 2. เผาผลาญด้วย ตีแบด 2 ชั่วโมง และ เดินอีก 2 ชั่วโมง
- 3. เผาผลาญด้วย นั่งดูทีวี 10 ชั่วโมง

Other Link
ลดน้ำหนักกับ Longderse ปรึกษาฟรี
บทความอื่นๆ

6/11/2554

เคล็ดลับ วิธีหยุดกิน วิธีหยุดอ้วน !!!


Other Link
ลดน้ำหนักกับ Longderse ปรึกษาฟรี
บทความอื่นๆ

วิธีหยุดกินเมื่อพูดถึงคำคำนี้ฟังดูอาจจะเป็นเรื่องยากที่เราจะทำ วิธีหยุดกิน นี้ได้ แต่ถ้าเราทำ วิธีหยุดกิน นี้ได้แน่นอนว่าผลที่ตามคือคุณจะหยุดอ้วนอีกด้วยนะจ๊ะ และสิ่งที่เรากำลังจะบอกต่อไปนี้ไม่ใช่ให้คุณอดอาหารคือการไม่กินเลยนะจ๊ะ แต่เรามีวิธีหยุดกินที่ดีกว่าแต่หยุดกินอย่างเหมาะสมเท่านั้น เพื่อเป็นการควบคุฒน้ำหนักและลดน้ำหนักอย่างได้ผลแล้วเราก็มีตัวช่วยให้คุณนั้นหยุดกินจากที่มากขึ้นให้ลดน้อยลงได้นะซิค่ะ ฟังแล้วอยากรู้วิธีหยุดกินกันแล้วใช่ไหมล่ะที่สำคัญยิ่งไปกว่าคงจะเป็นวิธีที่ไม่ยากสำหรับคนอยากมีหุ่นสวยหรอกจริงไหมอย่างที่เคยพูดไว้คนหุ่นดี หุ่นสวย ใครๆ ก็เป็นได้ ขึ้นอยู่ที่ความอดทนอดกลั้นและความพยายามของตัวคุณเองแล้วล่ะค่ะ

วิธีหยุดกิน วิธีหยุดอ้วน

1. รับยามเช้าด้วยโปรตีน
นักโภชนาการมักจะย้ำอยู่เสมอว่าให้เรากินโปรตีนไขมันต่ำเหตุผลก็เป็นเพราะว่า มันทำให้เราอิ่มกว่าอาหารชนิดอื่นๆ และใช้เวลาย่อยกับดูดซึมนานเช่นกันด้วย อย่างไรก็ตามโปรตีนแต่ละชนิดนั้นไม่เหมือนกัน การศึกษาจาก Purdue University ชี้ว่าการกินโปรตีนไร้มัน (เช่น ในโยเกิร์ตไขมันต่ำหรือไข่ขาว) เป็นอาหารเช้า จะทำให้คุณอิ่มนานกว่าการกินในมื้ออื่นๆ ของวัน ดังนั้น จึงควรลองกินโปรตีนประมาณ 30 กรัมในมื้อเช้า อาหารที่มีโปรตีนอยู่มากก็อย่างเช่น ทูน่า 3 ออนซ์ จะมีโปรตีนประมาณ 22 กรัม อกไก่ 3 ออนซ์ (ประมาณสำรับไพ่) มีโปรตีน 30 กรัม โยเกิร์ต 1 ถ้วย มี 11 กรัม และไข่หนึ่งฟองใหญ่ที่มีถึง 7 กรัม

2. ลองกินมันฝรั่ง
สูตรการไดเอ็ตแบบงดข้าวงดแป้งอาจจะแพร่หลายมากแต่ความจริงแล้วคาร์โบไฮเดรตหลายชนิดสามารถทำให้คุณอิ่มท้อง โดยเฉพาะมันฝรั่งซึ่งมีแป้งชนิดพิเศษทนทานต่อการย่อย จึงใช้เวลาอยู่ในระบบย่อยอาหารนานมากทำให้เราไม่รู้สึกหิว ดังนั้น แทนที่จะไม่กินแป้งเอาเสียเลยลองกินมันฝรั่งอบเป็นอาหารเย็น (หัวขนาดกลางจะมีประมาณ 100 แคลอรี) หรือถ้าเป็นสลัดมันฝรั่งก็ยิ่งดีเพราะมันฝรั่งที่เย็นๆ จะยิ่งช่วยให้อิ่มท้องมากขึ้นไปอีก แต่ทั้งนี้ มันฝรั่งทอดหรือเฟรนซ์ฟรายด์ก็ยังเป็นวายร้ายอยู่ดี

3. กินไขมัน (บ้าง)
การตัดไขมันทุกชนิดออกจากเมนูอาหารของคุณอาจย้อนเข้ามาทำร้ายตัวเองได้ในภายหลัง โดยเฉพาะหากคุณขาดกรดโอเลอิกไขมันไม่อิ่มตัวชนิดหนึ่งซึ่งพบได้ในน้ำมันมะกอก ถั่ว และอะโวคาโด ซึ่งในกระบวนการย่อยอาหารมันจะกลายเป็นสารที่ส่งสัญญาณทางอ้อมไปยังสมองให้หยุดกิน เพียงแต่การกินไขมันต้องระวังเรื่องปริมาณหน่อย ไขมันไม่อิ่มตัวควรจะมีปริมาณไม่เกินร้อยละ 20 ของแคลอรีทั้งหมดในหนึ่งวัน

4. ไม่กินแต่ดม
การดมกลิ่นอาหารบางอย่างจะช่วยหลอกสมองว่าคุณกินเข้าไปแล้ว การศึกษาครั้งหนึ่งเคยพบว่าคนที่ได้กลิ่นสะระแหน่ทุกๆ 2 ชั่วโมง จะกินน้อยลง 2,700 แคลอรีต่อสัปดาห์ (นั่นหมายความว่าลดได้ 2 กิโลกรัมต่อเดือน) และไม่ใช่แค่สะระแหน่เท่านั้นแต่ยังรวมถึงพืชที่มีสรรพคุณเดียวกันอย่างกล้วย แอปเปิ้ลเขียว และกลิ่นวานิลลา ซึ่งแทนที่จะใช้ของสดคุณก็อาจใช้เป็นเทียนหอมเก็บไว้ในลิ้นชัก (ที่คุณเก็บของว่างเอาไว้) จากนั้นทุกครั้งที่หิวก็ใช้นิ้วอุดจมูกข้างซ้ายแล้วสูดกลิ่นของเหล่านี้ด้วยจมูกขวาให้เข้าไปกระตุ้นสมองนอกจากจะอิ่มแล้วยังช่วยบรรเทาความวิตกกังวลด้วย

5. เคี้ยวหมากฝรั่ง
การศึกษาจาก University of Rhode Island พบว่า คนที่เคี้ยวหมากฝรั่งในตอนเช้าเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมงจะกินแคลอรีในมื้อกลางวันน้อยลงถึงร้อยละ 67 และก็จะไม่กินมื้อเย็นเพิ่มขึ้นอีกด้วย ทางนักวิจัยคาดกันว่า การเคี้ยวหมากฝรั่งจะกระตุ้นเส้นประสาทที่เชื่อมกับสมองในส่วนที่ดูแลความอยากอาหาร หากไม่เป็นเช่นนั้น อย่างน้อยที่สุดการเคี้ยวหมากฝรั่งก็จะช่วยเผาผลาญได้ถึง 11 แคลอรีต่อชั่วโมง (ยังดีกว่านอนตีพุงนะจ๊ะ)

Other Link
ลดน้ำหนักกับ Longderse ปรึกษาฟรี
บทความอื่นๆ

6/09/2554

"เคล็ดลับลดน้ำหนัก" แบบไม่ต้องอด !!!


Other Link
ลดน้ำหนักกับ Longderse ปรึกษาฟรี
บทความอื่นๆ

ใครไม่อยากอดอาหารต้องฟังไว้ค่ะกับเคล็ดลับลดน้ำหนักที่เรานำมาบอกเล่ากันในวันนี้ สำหรับ เคล็ดลับลดน้ำหนัก ในวันนี้เรานั้นจะไม่ยอมให้คุณต้องอดอาหารกันเลยล่ะค่ะ แต่ถึงแม้ว่า เคล็ดลับลดน้ำหนัก นี้จะไม่ยอมให้คุณต้องอดอาหารก็ตามทีเถอะ แต่คุณก็ไม่ควรจะเผลอเลอบริโภคอาหารจำพวกแป้งและน้ำตาลรวมถึงไขมัน จำพวกของทอดๆ กันซะเยอะล่ะ ไม่งั้นเคล็ดลับลดน้ำหนักของเราอาจจะไม่ได้ผลก็เป็นไปได้จ้า ฉะนั้นเมื่อมีเคล็ดลับลดน้ำหนักดีๆ แล้วก็ไม่ควรที่จะชะล่าใจกินซะจนเพลินเพราะว่าเคล็ดลับลดน้ำหนักนี้บอกว่าไม่ต้องอด หากว่าคุณได้ทำอย่างนั้นล่ะก็จากที่จะได้ลดน้ำหนักอาจจะเป็นเพิ่มน้ำหนักเป็นทวีคูณไม่รู้ด้วยค่ะ

6 เคล็ดลับลดน้ำหนัก แบบไม่ต้องอดอาหาร

1. ดื่มเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพเท่านั้น
ง่ายๆ เลยก็คือ เวลาคุณสาว ๆ เข้าร้านอาหาร อย่าสั่งพวกน้ำอัดลมหรือชามะนาวที่สามารถเติมได้ไม่อั้นอย่างเด็ดขาด เพราะมันจะยิ่งทำให้คุณดื่มมากขึ้น แนะนำให้หันมาดื่มชาสมุนไพร น้ำมะนาว ไดเอท-โซดา จะดีกว่า แต่ถ้าจะให้ดีที่สุด "น้ำเปล่า" นี่แหละค่ะ ตัวช่วยลดน้ำหนักที่ดีสำหรับสาว ๆ เลย

2. ทานอาหารเช้าให้เป็นนิสัย
อาหารเช้าคือมื้อสำคัญที่สุดของวัน หากคุณสาวๆ ไม่ยอมทานอาหารเช้าจะทำให้ตอนบ่ายรวมทั้งตอนกลางคืนคุณจะรู้สึกอยากทานอาหารมากกว่าปกติ นอกจากนี้การไม่ทานอาหารเช้าแล้วปล่อยให้ท้องว่างเป็นเวลานานก่อนจะถึงมื้อต่อไปจะทำให้ระบบการเผาผลาญทำงานช้าลงด้วย แต่ถ้าตอนเช้าคุณไม่รู้สึกหิว แสดงว่าคุณทานอาหารมื้อดึกในช่วงเวลาที่ใกล้จะเข้านอนแล้ว เพราะฉะนั้นควรจะทานอาหารเย็นให้เร็วขึ้นโดยปกติไม่ควรทานอาหารเย็นเกินหนึ่งทุ่มเพื่อที่ตอนเช้าคุณจะได้รู้สึกอยากทานอาหาร

3. จิบน้ำทีละน้อยในระหว่างวัน
คุณสาวๆ คงมักจะได้ยินคนพูดกันว่า ให้ดื่มน้ำวันละ 6-8 แก้วต่อวัน ร่างกายจะได้ไม่ขาดน้ำ ซึ่งน้ำในที่นี้ไม่ได้หมายถึง "น้ำเปล่า" อย่างเดียว เพราะยังรวมถึงน้ำจากผลไม้สดที่เราทานเข้าไปด้วย แต่คุณไม่ควรปล่อยให้เราหิวน้ำเสียก่อนถึงจะดื่มน้ำเสียล่ะ เพราะจริงๆ แล้วเราควรจิบน้ำทีละน้อยๆ ในแต่ละวัน แล้วคุณจะแปลกใจว่ามันช่วยให้ความอยากอาหารของร่างกายลดลงได้ด้วย

4. ทานผักผลไม้มากๆ
ทานผลไม้ทั้งเปลือก เช่น แอปเปิ้ล ซึ่งเต็มไปด้วยไฟเบอร์จะช่วยให้คุณรู้สึกอิ่มนานและทานได้น้อยลง และจำไว้ว่า แม้ผักและผลไม้เต็มไปด้วยสารอาหารแถมยังมีแคลอรีต่ำก็จริง แต่ต้องระวังหากทานผักผลไม้ร่วมกับน้ำสลัดที่มีแคลอรีสูง เนย ชีสซอส หรือทานกับพวกพาสต้าสลัด ครีมสลัด เพราะมันอาจทำให้คุณอ้วนได้ แล้วจะมาอ้างว่า ทานผักผลไม้เยอะแล้วไม่ได้ล่ะ

5. ทานโฮลเกรน
อาหารจำพวกโฮลเกรนจะช่วยให้คุณอิ่มได้นานกว่าคาร์โบไฮเดรตประเภทอื่นๆ โดยเฉพาะในตอนเช้า โฮลเกรนเป็นตัวเลือกที่ดีตัวหนึ่งของสาวๆ เลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นข้าวโอ๊ต ขนมปังโฮลเกรน แครกเกอร์โฮลวีท จะช่วยเพิ่มเส้นใยให้ร่างกายของคุณได้ดีเลยล่ะ

6. พักผ่อนให้เพียงพอ
รู้ไหมว่าการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอจะทำให้น้ำหนักลงลงได้ด้วย นอกจากนี้ยังทำให้คุณมีพลังเต็มเปี่ยมที่จะออกกำลังกายหรือทำงานได้มีประสิทธิภาพ แต่หากคุณไม่มีเวลานอนหลับมากมายลองทำวิธีง่ายๆ เช่น ฝึกการหายใจลึกๆ อ่านหนังสือ หรือฟังเพลง ฟังเสียงดนตรีที่สงบๆ ทุกๆ วัน จะช่วยให้คุณรู้สึกสบาย และลดความอยากทานอาหารตามอารมณ์ได้มากขึ้น

Other Link
ลดน้ำหนักกับ Longderse ปรึกษาฟรี
บทความอื่นๆ

ลดอ้วนด้วยเทคนิคในการออกกำลังกายอย่างเร่งด่วน


Other Link
ลดน้ำหนักกับ Longderse ปรึกษาฟรี
บทความอื่นๆ

ถ้าหากว่าคุณไม่มีเวลาเต็ม ๆ ชั่วโมงสำหรับการออกกำลังกาย วันนี้เรามีข้อแนะนำง่าย ๆ ที่คุณสามารถบริหารร่างกายของคุณได้ แม้กระทั่งในชั่วโมงการทำงานที่คุณกำลังยุ่งสุด ๆ ค่ะ
ถ้าหากคุณต้องทำกิจกรรมบางอย่างที่ต้องนิ่ง ๆ เฉย ๆ อย่างเช่นยกสิ่งของเอาไว้นิ่งๆ นั่งนิ่ง ๆ หรืออยู่ในท่าใดท่าหนึ่งที่ต้องการความนิ่ง ก็ให้ถือว่านั่นเป็นโอกาสที่คุณจะได้บริหารกล้ามเนื้อของคุณ

- ในระหว่างที่คุณกำลังต่อคิวซื้อสินค้าที่ร้านขายของ คุณอาจจะบริหารหน้าท้องด้วยการเกร็ง และคลายออก หรืออาจจะบริหารเข่า ยืดน่อง ในขณะที่นั่งคุยโทรศัพท์ก็ได้

- พยายามใช้บันไดเสมอไม่ว่าคุณจะอยู่ที่สำนักงาน หรือห้างสรรพสินค้า

- ในขณะที่คุณอาบน้ำฝักบัว คุณอาจจะบริหารต้นคอ ด้วยการหมุนคอ ก้มลงแตะหัวแม่เท้า หรืออาจจะหมุนหัวไหลไปด้วยก็ได้

- อย่านำของขบเคี้ยวมาวางกองไว้ ในขณะที่คุณกำลังติดตามรายการทีวีสุดโปรด แต่ให้เอาไปไว้ในที่ ๆ ไกลพอที่คุณจะต้องเดินไปหยิบมันมา เมื่อถึงเวลาพักโฆษณา คุณก็อ่จจะลุกขึ้นขยับแข้งขา กระโดดตัวลอย เพื่อให้หายเมื่อยบ้างก็ได้

- ในช่วงพักเที่ยง หลังรับประทานอาหารแล้ว ก็เดินย่อยเสียหน่อย อาจจะเป็นการเดินรอบตึกสำนักงานก็ได้

- หาสุนัขมาเลี้ยงสักตัว เพราะนั่นจะเป็นการเพิ่มกิจกรรมประจำวันของคุณให้แอคทีฟขึ้นมาได้

- วางแผนสำหรับการพักผ่อน ในปบบที่คุณจะได้มีโอกาสออกกำลังกาย อย่างเช่น การปีนเขา หรือว่ายน้ำ

Other Link
ลดน้ำหนักกับ Longderse ปรึกษาฟรี
บทความอื่นๆ

6/08/2554

กินอาหารอย่างสมดุล ช่วยลดความอ้วน



Other Link
ลดน้ำหนักกับ Longderse ปรึกษาฟรี
บทความอื่นๆ

วิธีลดความอ้วนโดยการกินอาหารอย่างสมดุล ลดอาหารที่มีไขมันลง เพราะไขมัน 1 กรัมให้พลังงาน 9 แคลอรี ในขณะที่ถ้าเรากินอาหารจากแป้งในปริมาณเท่ากัน จะได้พลังงานเพียง 4 แคลอรีเท่านั้น

การกินอาหารแบบ Reversal Diet มีหลักว่า

ต้องกินอาหารไขมันต่ำและมีโคเลสเตอรอลต่ำกว่า 5% ต่อวัน
พลังงานที่ได้จากไขมันต้องน้อยกว่า 10% ต่อวัน และควรเป็นไขมันไม่อิ่มตัว
ต้องได้รับพลังงานจากคาร์โบไฮเดรต หรือ กลุ่มแป้ง 70-75% ต่อวัน และได้พลังงานจากโปรตีน 15-20% ต่อวัน

คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน
อาหารพวกแป้งหรือคาร์โบไฮเดรต แบ่งได้เป็น 2 พวก คือ
คาร์โบไฮเดรตแบบชั้นเดียว ได้แก่ แอลกอฮอลล์ น้ำผึ้ง น้ำตาล ซึ่งร่างกายจะดูดซึมพลังานไปใช้ทันที่ตกถึงท้อง แต่ไม่ค่อยอยู่ท้องนัก ทำให้หิวง่ายและร่างกายยังแปรรูปคาร์โบไฮเดรตชนิดนี้ไปเป็นไขมันได้ง่ายด้วย
คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน ก่อนที่ร่างกายจะดูดซึมพลังงานไปใช้ได้จะต้องผ่านกระบวนการสันดาปก่อน เมื่อกินแล้วจะอิ่มท้องนานและยังแปรเป็นไขมันได้ยากกว่าแบบแรกด้วย เช่น ข้าว มัน เผือก แครอท ลูกเดือย

วิธีเลือกอาหารหมู่โปรตีน
พยายามให้ร่างกายได้รับ โปรตีนจากพืช โดยเฉพาะถั่วมากกว่าเนื้อสัตว์ เพราะเนื้อสัตว์จะมีไขมันแทรกอยู่ในกล้ามเนื้อ ทำอย่างไรก็หนีไม่พ้นต้องทานไขมันเข้าไปด้วยอยู่ดี นอกจากนี้ Reversal Diet กำหนดให้กินไข่ขาววันละ 2-3 ฟอง ด้วยวิธีต้ม ไม่ทอด ส่วนอาหารไข่ที่ต้องใส่น้ำตาลควรทานให้น้อยที่สุด
หลีกเลี่ยงอาหารที่ปรุงด้วย การทอด เจียว ผัด เน้นอาหารมังสวิรัตที่ให้สารอาหารที่เป็นประโยชน์กับร่างกายมากกว่า แต่มีโคเลสเตอรอลน้อยกว่ากันมาก
ระหว่างไดเอทด้วยวิธีนี้ ต้องดื่มนมพร่องมันเนยอย่างน้อยวันละกล่อง เพื่อป้องกันการขาดโปรตีน

Other Link
ลดน้ำหนักกับ Longderse ปรึกษาฟรี
บทความอื่นๆ

ความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับการลดน้ำหนัก


Other Link
ลดน้ำหนักกับ Longderse
บทความอื่นๆ

เนื่องจากการลดน้ำหนักเป็นสิ่งที่ทำได้ด้วยความยากลำบาก คนที่มีน้ำหนักเกินยังไม่เห็นผลร้ายที่เกิดกับตนเองในระยะสั้นๆ ดังนั้นคนทั่วไปจึงมักไม่ค่อยมีความตั้งใจจริงที่จะลดน้ำหนัก และเมื่อมีความต้องการจะลดน้ำหนัก ก็จะต้องการให้ลดลงไปอย่างรวดเร็ว จึงมีความเชื่อผิดๆ หรือการโฆณณาชวนเชื่อต่างๆ ออกมาอยู่เป็นประจำ ความเชื่อผิดๆ เหล่านี้ได้แก่

1. ความเชื่อที่ว่าท่านสามารถลดน้ำหนักได้สัปดาห์ละหลายๆ กิโลกรัม โดยการรับประทานยาสำหรับลดน้ำหนัก ซึ่งการลดน้ำหนักอย่างรวดเร็วส่วนใหญ่จะเป็นการขับน้ำออกจาก ร่างกาย ไม่ใช่ไขมันส่วนเกิน

2. ความเชื่อที่ว่าท่านจะลดน้ำหนักโดยการอดอาหารเป็นมื้อๆ ไป ถ้าหากหิวก็ให้อดทนเอา วิธีนี้คงจะเป็นวิธีที่ทรมานที่สุด เพราะท่านอาจจะเป็นโรคกระเพาะเสียก่อน และเมื่อถึงเวลารับประทานมื้อถัดไป ท่านอาจจะรับประทานมากกว่าเดิม

3. ความเชื่อที่ว่าท่านไม่จำเป็นต้องลดน้ำหนัก เพราะอ้วนกันทั้งครอบครัว ความอ้วนเป็นกรรมพันธุ์ ความเชื่อเหล่านี้จะยิ่งทำให้อ้วนมากยิ่งขึ้น เพราะจริงๆ แล้วโรคอ้วนไม่ใช่กรรมพันธุ์ แต่การสร้างเซลล์ไขมันส่วนเกินได้ง่ายในครอบครัวของคนอ้วนเป็นกรรมพันธุ์ แต่ก็ป้องกันได้โดยการเลือกอาหารด้วยความระมัดระวังและการออกกำลังกาย

การลดน้ำหนักที่ถูกต้องคือ การลดน้ำหนักที่ค่อยเป็นค่อยไป ไม่มีผลต่อร่างกายอย่างรวดเร็ว การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการรับประทานอาหารให้เหมาะสม และการออกกำลังกายเท่านั้น ที่เป็นหัวใจของการลดน้ำหนักที่ได้ผลดีที่สุด


Other Link
ลดน้ำหนักกับ Longderse
บทความอื่นๆ

แนะเคล็ดลับควบคุมอาหาร


Other Link
ลดน้ำหนักกับ Longderse ปรึกษาฟรี
บทความอื่นๆ

หนึ่งในวิธีที่ช่วยในการลดน้ำหนักอย่างได้ผล ก็คือการควบคุมการรับประทานอาหาร มีวิธีดังนี้
- บริโภคข้าวหรือแป้งได้ตามปกติ แต่ควรลดปริมาณลงจาก เดิม 1 ใน 3 ส่วน
- ให้บริโภคเนื้อปลา ไข่ขาว เต้าหู้และผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลืองทุกวัน
- หลีกเลี่ยงอาหารทอดหรือผัด ให้เปลี่ยนมาเลือกอาหารที่เตรียมโดยการต้ม นึ่ง ย่าง แทน
- หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีไขมันอิ่มตัว อย่างเช่น น้ำมันมะพร้าว น้ำมันปาล์ม ครีมเทียม แนะนำให้บริโภคน้ำมันจากรำข้าว ถั่วเหลือง และเมล็ดทานตะวัน
- ควรดื่มนมพร่องมันเนย วันละ 1-2 แก้ว หากดื่มนมไม่ได้ให้ดื่มนมถั่วเหลืองแทน
- งดการบริโภคน้ำหวาน น้ำอัดลม น้ำผลไม้ที่หวานจัด เหล้า เบียร์ และไวน์
- งดรับประทานอาหารระหว่างมื้อ
- ลดการบริโภคเกลือ อาหารหมักดอง อาหารเค็ม
- ควรออกกำลังกายอย่างน้อยอาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง/สัปดาห์

Other Link
ลดน้ำหนักกับ Longderse ปรึกษาฟรี
บทความอื่นๆ

6/07/2554

รำข้าวโอ๊ต (Oat bran) กับบทบาทอาหารเสริมลดน้ำหนัก

Other Link
ลดน้ำหนักกับ Longderse ปรึกษาฟรี
บทความอื่นๆ
  • ข้าวโอ๊ต ( Oat ) เป็นพืชที่จัดอยู่ในตระกูล Avena sativa ที่นิยมเพาะปลูกในแถบยุโรปตอนเหนือ เนื่องจากเจริญเติบโตได้ดี ในเขตหนาว ชาวยุโรปนิยมรับประทานเป็นอาหารเช้า ข้าวโอ๊ต เป็นพืชที่ให้เมล็ดซึ่งมีคุณค่าทางอาหารมากมาย โดยเฉพาะจำพวกแป้งหรือคาร์โบไฮเดรต

  • รำข้าวโอ๊ต ( Oat Bran ) เป็นเส้นใย Fiber ที่ได้จากการขัดสีข้าวโอ๊ตให้ขาว หรือ คือเส้นใยบางๆ ที่ห่อหุ้มเมล็ดข้าวโอ๊ตนั่นเอง โดยเราพบว่า รำข้าวโอ๊ตจะให้เส้นใยอาหาร หรือ fiber 2 ชนิด คือ


1. เส้นใยชนิดที่ละลายน้ำได้( Soluble Fiber) - ในอัตราส่วน 95-98% ของปริมาณ เส้นใยอาหารทั้งหมด ซึ่งเมื่อละลายน้ำแล้วจะทำให้เกิดสารละลายที่มีลักษณะเป็นเจล โดยเมื่อรับประทานเข้าไป ไฟเบอร์นี้จะละลายในสารอาหารก่อนที่ สารอาหารจะถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือด ดังนั้นเจลของไฟเบอร์จะเกาะติดกับสารอาหาร โดยเฉพาะไขมัน ทำให้ไขมันและสารอาหารอื่นๆ ไม่ถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย และจะเอาอาหารขับออกทางอุจจาระ จึงทำให้ลดไขมันคลอเรสเตอรอลในเลือดได้


2. เส้นใยชนิดที่ไม่ละลายน้ำ( Non-soluble Fiber) - ในอัตราส่วน 2-5 % ของ ปริมาณเส้นใยอาหารทั้งหมด โดยจะมีคุณสมบัติคล้ายฟองน้ำ โดยจะดูดซับน้ำใว้กับตัวเองทำให้พองตัว เมื่อรับประทานเข้าไปจึงจะส่งผลให้ จึงทำให้ ปริมาตรของสารที่ต้องการขับถ่ายเคลื่อนตัวผ่านลำไส้ได้เร็วขึ้น ป้องกันและรักษาปัญหาท้องผูกได้

  • ดังนั้นประโยชน์ของการรับประทานอาหารที่ผลิตจากรำข้าวโอ๊ต จึงนำมาใช้ในผู้ที่ต้องการลดน้ำตาลและไขมันในเลือด อาทิ ผู้ป่วยเบาหวาน โรค ไขมันในเลือดสูง โรคหัวใจ และผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก แต่ขณะเดียวกันต้องคำนึงถึง สารอาหารและวิตามินที่จำเป็นบางอย่างในอาหาร อาจ ถูกขับถ่ายออกไปด้วย

  • ขนาดที่รับประทานครั้งละ 1,000 มิลลิกรัม โดยรับประทานก่อนอาหาร 20-30 นาทีทั้ง 3 มื้อ และดื่มน้ำตามประมาณ 1-2 แก้ว ราคาที่ขายตาม ท้องตลาดหรือร้านขายยา ประมาณ 11-12 บาทต่อแคปซูล (1000 มิลลิกรัม) แพงเอาการอยู่เหมือนกันนะครับ
Other Link
ลดน้ำหนักกับ Longderse ปรึกษาฟรี
บทความอื่นๆ

6/06/2554

อาหารที่ช่วยลดความอยากอาหาร


Other Link
ลดน้ำหนักกับ Longderse ปรึกษาฟรี
บทความอื่นๆ
ถ้าคุณรู้สึกว่าการควบคุมตัวเองไม่ให้หยิบช็อกโกแลตหรือคุกกี้รับประทานนั้นเป็นเรื่องยากแสนยาก แล้วยังไม่รวมอาการอยากรับประทานโน่นนี่ (โดยเฉพาะที่แคลอรีสูง ๆ ) ไม่หยุดหย่อน …การรับประทานอาหารที่จะแนะนำนี้รองท้องหรือระหว่างมื้อช่วยได้มาก

ถั่ว แบบที่เรียกกันว่า pine nuts นั้นมีการวิจัยแสดงให้เห็นว่าช่วยระงับฮอร์โมนความอยากอาหารที่เรียกว่า cholecystokinin (CKK) ได้ เพราะฉะนั้นจึงแนะนำกันว่าให้โรยถั่วชนิดนี้ในสลัด พาสต้าโฮลวีท หรืออาหารที่รับประทานเข้าไป แต่ถ้าหาถั่วชนิดนี้ไม่ได้ อัลมอนด์ก็ใช้ได้ แถมเมล็ดอัลมอนด์จะมีปฏิกิริยาขัดขวางการดูดซึมไขมันในร่างกาย ช่วยให้ลดน้ำหนักได้ด้วย 

อาหารร้อน ๆ ยกตัวอย่างเช่น ซุป และน้ำชา ด้วยอุณหภูมิที่สูงทำให้ความอยากอาหาร ของเราลดต่ำลง เพราะฉะนั้นก่อนมื้อหนักควรรับประทานซุปหรือจิบน้ำชา เพียงแต่ต้องแน่ใจว่าซุปนั้นจะไม่ใช่แบบครีมข้น และน้ำชาก็ต้องไม่ใส่น้ำตาลก้อน น้ำเชื่อม ฯลฯ ยิ่งถ้าได้จิบชาเขียวบอกกันว่าจะช่วยกระตุ้นกระบวนการเผาผลาญให้ดียิ่งขึ้นด้วย

แอปเปิ้ล ในแอปเปิ้ลลูกหนึ่งนั้นมีไฟเบอร์มากกว่าพีช องุ่น และส้มเสียอีก ซึ่งไฟเบอร์ช่วยทำให้เรารู้สึกอิ่ม ป้องกันการรับประทานมากจนเกินพอดี เพราะฉะนั้นจึงมีคำแนะนำให้รับประทานแอปเปิ้ลก่อนมื้อค่ำ วิธีนี้จะช่วยให้มื้อค่ำของคุณไม่น่ากลัวจนเกินไป

Other Link
ลดน้ำหนักกับ Longderse ปรึกษาฟรี
บทความอื่นๆ

เมื่ออ้วนควรทำอย่างไร ?


Other Link
ลดน้ำหนักกับ Longderse
บทความอื่นๆ

คำตอบง่าย ๆ "ก็ลดซิคะ" แล้วจะลดอย่างไร หลักง่าย ๆ ในการลดน้ำหนักมี 3 ข้อ คือ

1. การควบคุมอาหาร (DIET)

2. การออกกำลังกาย (EXERCISE)

3. การปรับพฤติกรรมให้เหมาะสม (BEHAVIOR MODIFICATION)

ขั้นที่ 3 นี้ถือว่าสำคัญที่สุด เพราะจากการทดลองแบ่งคนไข้ออกเป็น 2 กลุ่ม ในระหว่างคอร์สลดน้ำหนักให้ควบคุมอาหาร ร่วมกับการออกกำลังกายทั้ง 2 กลุ่ม แต่อีกกลุ่มหนึ่งเพิ่มการปรับปรุงพฤติกรรมด้วย พบว่า เมื่อจบการทดลอง 2 เดือน สามารถลดน้ำหนักได้เท่า ๆ กันในคนไช้ทั้ง 2 กลุ่ม แต่หลังจากติดตามการรักษา 6 เดือน พบว่ากลุ่มที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลง พฤติกรรม จะกลับมาเป็นโรคอ้วนอีกมากกว่าร้อยละ 80 ในขณะที่กลุ่มที่ได้รับการอบรมเรื่องการปรับปรุงพฤติกรรมจะสามารถ ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณ์มาตรฐานได้ต่อไป

1. การควบคุมอาหาร ได้แก่ การลดปริมาณอาหาร และการเลือกชนิดของอาหารให้เหมาะสม ตัวอย่างเช่น ผู้หญิงอายุ 20-29 ปี ทำงานนั่งโต๊ะ จะต้องการพลังงานวันละประมาณ 1,800 กิโลแคลอรี่ หากรับประทานมากกว่านี้ก็จะเหลือสะสมไว้ในร่างกาย ถ้ารับประทานน้อยลง ร่างกายก็จะดึงไขมันที่สะสมไว้มาใช้ โดยปกติการลดน้ำหนัก 1 กิโลกรัม ร่างกายจะต้องมีการเผาผลาญพลังงานถึง 7,700 กิโลแคลอรี่ ดังนั้น หากผู้หญิงอายุ 20-29 ปี ต้องการลดน้ำหนัก 1 กิโลกรัมใน 10 วัน จะต้องลดพลังงานอาหารที่รับประทาน ให้เหลือเพียง 1,000 กิโลแคลอรี่ต่อวัน การลดน้ำหนักไม่ใช่ทำรวดเร็วทันใจ เช่น ลด 1 ก.ก. ใน 2 วันได้ หากลดเร็วขนาดนี้จริง ๆ แล้วไม่ใช่ไขมันที่สูญเสียไป หากแต่เป็นการเสียน้ำชั่วคราวเท่านั้น พอดื่มน้ำเข้าไปใหม่ก็จะหนักเท่าเดิม ไม่มีประโยชน์อะไร

การควบคุมน้ำหนักนั้นต้องค่อยป็นค่อยไปอดเลยก็ไม่ได้เพราะเมื่อเริ่มอดอาหาร 1-2 วันก็จะหิวมากขึ้น พอหมดความอดทน ก็จะยิ่งรับประทานเพิ่มมากกว่าเดิม วิธีที่ถูกต้องคือ รับประทานอาหารประมาณวันละ 3 มื้อ แต่เป็นมื้อเล็กๆ อาจมีของว่างระหว่างมื้อได้ โดยเน้นการเลือกอาหารให้เหมาะสม หลีกเลี่ยงของมัน อาหารที่ปรุงด้วยการทอด ไขมันจากเนื้อสัตว์ ใหรับประทานแป้ง ผักและผลไม้ให้มากขึ้น เนื้อสัตว์ก็ควร
เป็นพวกปลา ปู กุ้ง ซึ่งให้พลังงานน้อยกว่าเนื้อหมูและเนื้อวัว สำหรับผักและผลไม้นั้นควร รับประทานให้ได้ทุกมื้อ เพราะนอกจากจะให้พลังงานต่ำแล้วยังทำให้อิ่มเร็ว เพราะมีเส้นใย หรือ FIBER มาก ทั้งยังอุดมไปด้วย เกลือแร่และวิตามินอีกด้วย

แถมการควบคุมอาหารยิ่งเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดไม่สิ้นเปลืองเหมีอนวีธีอื่นสามารถทำได้ โดยรับประทานอาหารให้น้อยลง ออกกำลังให้มากขึ้นหรือทำทั้งสองอย่างควบคู่กันไป ก็จะเป็นการเผาผลาญหักล้างกันได้ ตั้งหลักและกฎเกณฑ์ในการรับประทานอาหาร หากเรารู้จักที่จะจำกัด จำนวนแคลอรี่อาหารที่เรารับประทานในแต่ละวัน ให้ได้มาตราฐานของตัวเอง ไม่มาก ไม่น้อย จนเกินไป กินอาหารเฉพาะบางอย่าง หลีกเลี่ยงอาหาร
ที่ให้แคลอรี่สูง หรืออาจจะกินตามปกติแต่ให้จำนวนน้อยลง เช่น กำหนดว่าวันหนึ่ง ๆ เราจะใช้แคลอรี่เท่าไหร่ อาจจะใช้แคลอรี่จากแป้ง 40 เปอร์เซ็นต์ แคลอรี่จากโปตีน 20 เปอร์เซ็นต์ แคลอรี่จากไขมัน 20 เปอร์เซ็นต์ ก็จะช่วยลดนำหนักได้ 1 กิโลกรัม ต่อ 1 อาทิตย์ หากต้องลดลงอีกก็ให้ลดจำนวนแคลอรี่ลงไปอีกแต่อย่ามากเกินไปล่ะ

Other Link
ลดน้ำหนักกับ Longderse
บทความอื่นๆ

6/05/2554

เพิ่มระบบเผาผลาญเพื่อลดน้ำหนัก

วิธีกินเพื่อเพิ่มอัตราการเผาผลาญพลังงาน (Metabolic rate) เพื่อลดความอ้วน ลดไขมัน

Other Link
ลดน้ำหนักกับ Longderse ปรึกษาฟรี
บทความอื่นๆ

ระบบเผาผลาญเป็นวิธีที่ร่างกายผลิตพลังงานจากอาหารมาใช้ในการทำงานของร่างกาย ซึ่งเกี่ยวข้องกับฮอร์โมนและเอ็นไซม์หลายชนิดในร่างกาย ระบบการเผาผลาญจะเป็นตัวกำหนดอัตราการเผาผลาญพลังงาน (Metabolic rate) ซึ่งถ้าอัตราการเผาผลาญสูง ร่างกายจะเผาผลาญอาหารได้ดี แต่ถ้าอัตราการเผาผลาญต่ำจะทำให้เพิ่มน้ำหนักตัวได้เร็วหรือลดน้ำหนักได้ยาก

แต่ละคนมีประสิทธิภาพการเผาผลาญพลังงานแตกต่างกัน ซึ่งอัตราการเผาผลาญของร่างกายมาจากพลังงาน 3 ส่วนคือ

1. พลังงานพื้นฐานที่ใช้ในการทำงานของอวัยวะภายในร่างกาย

2.พลังงานที่ใช้ในการเคลื่อนไหวหรือออกแรง

3.พลังงานที่ใช้ในการย่อยอาหาร

การปรับเปลี่ยนวิธีการบริโภคและการใช้ พลังงานจึงมีผลต่อระบบการเผาผลาญของร่างกายได้
นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยอื่นๆที่มีอิทธิพลต่อระบบเผาผลาญ ได้แก่ อายุ เพศ น้ำหนัก ส่วนสูง วิถีการดำเนินชีวิตและองค์ประกอบของร่างกาย (ปริมาณของมวลกล้ามเนื้อ) โดยธรรมชาติระบบการเผาผลาญของคนเราจะลดลงประมาณ 5% ทุกๆ 10 ปี โดยเริ่มหลังจากอายุ 40 ปี ขณะอยู่เฉยๆไม่ได้ทำอะไร เพศชายจะเผาผลาญพลังงานได้มากกว่าเพศหญิง คนที่มีกล้ามเนื้อมากก็จะมีระบบการเผาผลาญสูงกว่าคนที่มีไขมันมาก เพราะเซลล์กล้ามเนื้อเป็นเซลล์ขยันใช้พลังงานได้ดีกว่าเซลล์ไขมันซึ่งเปรียบ ได้กับเซลล์ขี้เกียจ และท้ายที่สุดสิ่งที่ถูกกำหนดมาให้แต่ละคนตั้งแต่เกิดคือพันธุกรรม ซึ่งถูกโปรแกรมมาแล้วทำให้คนเรามีระบบเผาผลาญแตกต่างกันไป นอกจากนี้ โรคบางชนิด เช่น ไทรอยด์(ทำงานน้อย)ก็ทำให้ระบบการเผาผลาญช้าลงได้

ทำไมน้ำหนักทรงตัวหลังลดความอ้วน
ผู้เชี่ยวชาญอธิบายเรื่องนี้ว่า ขณะที่เราอ้วน ระบบการเผาผลาญยังสูงอยู่ ฉะนั้นเมื่อลดแคลอรีจากอาหารลงมาแม้เพียงเล็กน้อย จึงทำให้น้ำหนักตัวลดลง และหลังจากที่สูญเสียเซลล์ไขมันและเซลล์กล้ามเนื้อไปพร้อมกับการสูญเสียน้ำ ในระยะแรก ระบบเผาผลาญจะลดต่ำลงร่างกายจึงต้องการพลังงานในการทำงานน้อยลง

ทุกๆ 0.5 กิโลของเซลล์กล้ามเนื้อที่ลดลง จะทำให้ระบบเผาผลาญทำงานลดลงประมาณ 9 แคลอรี นี่เองเป็นเหตุผลว่า คนที่ลดน้ำหนักจึงอ้วนขึ้นได้ง่ายในเวลาต่อมาถ้าไม่ควบคุมต่อเนื่อง นอกจากนี้ พลังงานที่ร่างกายต้องการจากอาหารก็จะลดน้อยลงไปอีก นั่นหมายถึงว่าปริมาณอาหารที่รับประทานจะต้องน้อยลงตามไปด้วย

ตัวอย่างเช่น นายแดงและนายดำมีน้ำหนักเท่ากันคือ 112 กิโลกรัม โดยที่น้ำหนักเดิมของนายแดงคือ 156 กิโลกรัม ส่วนนายดำหนัก 112 กิโลกรัมมาตลอด นายแดงผู้ลดน้ำหนักโดยการจำกัดอาหารจึงมีระบบเผาผลาญลดลง ทำให้ร่างกายต้องการพลังงานน้อยลงกว่านายดำทั้งๆที่มีน้ำหนักเท่ากัน

ดังนั้นการที่มีน้ำหนักเท่ากันจึงไม่ได้หมายความว่าเราจะต้องการพลังงานเท่ากันเสมอไป หากผ่านการลดน้ำหนักมาก่อน จึงต้องควบคุมการกินอาหารให้น้อยลงไปให้ได้อย่างต่อเนื่อง

วิธีกินเพื่อการเพิ่มอัตราการเผาผลาญพลังงาน (Metabolic rate)
1. กินบ่อยแต่แบ่งเป็นมื้อเล็กๆ การกินอาหารวันละ 4-6 มื้อ จะช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญตลอดทั้งวันและลดน้ำหนักได้มากขึ้น คนที่ทิ้งช่วงการกินระหว่างมื้อต่อมื้อนานเกินไประบบเผาผลาญจะปรับตัวให้ทำงานช้าลงเพื่อชดเชยกับการไม่ได้กิน แต่ถ้ากินมื้อใหญ่เกินไประบบเผาผลาญจะทำงานเสมือนว่าคุณกำลังอดอยาก จึงสงวนแคลอรีทั้งหมดที่กินไว้เพื่อสะสมเป็นเสบียงยามขาดแคลน

2. ห้ามอดมื้อเช้า คนที่งดอาหารเช้าบ่อยๆ จะอ้วนง่ายกว่าคนที่กินอาหารเช้าเป็นประจำ ร่างกายคนเราต้องการพลังงานและสารอาหารเพื่อจะทำงานได้ทั้ง 24 ชั่วโมง ดังนั้น การอดอาหารมื้อใดมื้อหนึ่งจึงทำให้ร่างกายเข้าสู่ระบบสงวนพลังงาน โดยการลดอัตราการเผาผลาญลงและทำให้ร่างกายเก็บสะสมพลังงานอย่างเต็มที่ในรูปของไขมัน อาหารเช้าที่มีคุณภาพได้แก่ ข้าว (ซ้อมมือ) ต้มเครื่องหรือขนมปังไข่ดาว

3. เพิ่มอาหารโปรตีน โดยปกติอาหารจะช่วยเพิ่มระบบการเผาผลาญหลังจากที่กินไปแล้ว 1 ชั่วโมง ซึ่งเป็นช่วงที่ทำงานได้ดีที่สุด แต่อาหารโปรตีนต้องการพลังงานเพิ่มขึ้น 25% ในการย่อย ฉะนั้นอาหารว่างที่มีโปรตีนสูงจึงทำให้การเผาผลาญทำงานได้ดีกว่า (เล็กน้อย) เมื่อเทียบกับอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตสูง (โดยที่มีแคลอรีเท่าๆ กัน) แต่ถึงอย่างนั้น ก็ยังไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนที่สรุปว่าอาหารชนิดใดจะมีผลพิเศษในการเพิ่มระบบเผาผลาญ

4. เติมเครื่องเทศรสเผ็ด มีงานวิจัยว่า พริกหรืออาหารรสจัดสามารถเพิ่มระบบเผาผลาญได้ 20% เป็นเวลาถึง 30 นาที งานวิจัยในสตรีชาวญี่ปุ่นรายงานว่า พริกสีแดงช่วยเพิ่มระบบเผาผลาญในร่างกาย โดยเฉพาะเมื่อกินพริกแดงกับอาหารไขมันสูง นอกจากนี้ ยังมีงานวิจัยขนาดเล็ก พบว่านักกีฬาชายที่กินพริกแดงกับอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตสูง มีอัตราระบบเผาผลาญสูงขึ้นทั้งขณะที่มีกิจกรรมและไม่มีกิจกรรม หลังการกินอาหาร 30 นาที แต่ไม่มีหลักฐานยืนยันว่าเพิ่มการทำงานได้นานแค่ไหน ผลดีของการกินพริกคือช่วยให้กินผักได้เพิ่มขึ้นแต่ผลการเพิ่มอัตราการเผาผลาญนั้นเพียงเล็กน้อย จึงต้องใช้ความพอดีในข้อนี้ให้มาก

5. ดื่มน้ำตลอดวัน น้ำเป็นสารอาหารที่สำคัญอย่างหนึ่ง หากดื่มน้ำน้อยไประบบเผาผลาญจะลดลงเหมือนขาดอาหาร โดยตับจะเก็บน้ำไว้แทนที่จะนำไปใช้ในหน้าที่อื่นๆ เช่น เผาผลาญไขมัน การดื่มน้ำเย็นๆจะช่วยเพิ่มระบบการเผาผลาญได้เล็กน้อยจากการที่ร่างกายต้อง รักษาระดับอุณหภูมิในร่างกาย ส่วนเครื่องดื่มอื่นๆ เช่น ชาเขียว มีสารต้านอนุมูลอิสระ EGCG (epigallocatechin gallate) ที่มีฤทธิ์สูง หากดื่มขณะที่กินอาหารจะช่วยเพิ่มระบบการเผาผลาญ 24 ชั่วโมงได้ 4% (คาเฟอีนเพียงอย่างเดียวไม่แสดงผลนี้) แม้ชาเขียวจะกระตุ้นระบบเผาผลาญได้ดีกว่าและนานกว่ากาแฟ แต่การดื่มชาเขียวโดยไม่ควบคุมปริมาณอาหารที่กินตลอดทั้งวันก็ไม่อาจช่วยให้น้ำหนักลดลงได้

6. เลี่ยงน้ำตาลและของหวาน การกินของหวานมากๆ จะช่วยส่งเสริมให้ระบบเผาผลาญเก็บสะสมไขมันมากกว่าการเผาผลาญไขมันออกไปใช้ นอกจากนี้ น้ำตาลยังเป็นพลังงานส่วนเกินที่ทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มได้ง่าย

ปัจจัยเสริมเร่งการเผาผลาญพลังงานตลอดทั้งวัน
ควรออกกำลังกายแบบแอโรบิคที่เผาผลาญพลังงานในเวลาสั้นๆ และยกน้ำหนักที่จะสร้างกล้ามเนื้อ เพื่อเพิ่มระบบเผาผลาญในระยะยาว ถ้าเรายิ่งสร้างกล้ามเนื้อมากเท่าไร อัตราการเผาผลาญ(ขณะที่อยู่เฉยๆ) ก็จะยิ่งสูงมากขึ้นเท่านั้นเพราะเซลล์กล้ามเนื้อเผาผลาญพลังงานได้มากกว่าเซลไขมัน

การออกกำลังกายแบบแอโรบิค 30 นาที อาจเผาผลาญพลังงานได้มากกว่าการยกน้ำหนัก 30 นาที แต่การยกน้ำหนักกลับจะเพิ่มให้ระบบเผาผลาญทำงานได้นานกว่า ฉะนั้นกฏข้อหนึ่งของการลดน้ำหนักคือ การออกกำลังกายควบคู่กันไปกับการควบคุมอาหารจะช่วยสร้างกล้ามเนื้อเพื่อเพิ่มอัตราการเผาผลาญของร่างกายให้มากขึ้นและคงน้ำหนักที่ลดลงได้

ผู้หญิงบางคนกลัวว่าการออกกำลังกายจะทำให้มีกล้ามเนื้อเป็นมัดๆ ดูแล้วไม่สวยงาม แต่ที่จริงผู้หญิงไม่มีฮอร์โมนเทสโทสเทอโรน (Testosterone) มากพอที่จะทำให้กล้ามเนื้อใหญ่เหมือนผู้ชายได้ขนาดนั้น จึงไม่น่าเป็นข้ออ้างในการไม่ออกกำลังกาย ความเครียดก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้อ้วนได้ โดยเฉพาะอ้วนลงพุง เพราะความเครียดทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอลมีผลให้ระบบเผาผลาญลดลง และที่สำคัญนอนให้เพียงพอ การวิจัยพบว่าผู้ที่นอนน้อยกว่าวันละ7-8 ชั่วโมงจะอ้วนได้ง่าย เนื่องจากร่างกายมีสภาวะเครียดเพิ่มขึ้น

ที่มา: เฮลธ์ แอนด์ คูซีน

Other Link
ลดน้ำหนักกับ Longderse ปรึกษาฟรี
บทความอื่นๆ

เพิ่มระบบเผาผลาญเพื่อลดอ้วน


Other Link
ลดน้ำหนักกับ Longderse ปรึกษาฟรี
บทความอื่นๆ

ระบบเผาผลาญเป็นวิธีที่ร่างกายผลิตพลังงานจากอาหารมาใช้ในการทำงานของร่างกาย ซึ่งเกี่ยวข้องกับฮอร์โมนและเอ็นไซม์หลายชนิดในร่างกาย ระบบการเผาผลาญจะเป็นตัวกำหนดอัตราการเผาผลาญพลังงาน (metabolic rate)

ถ้าอัตราการเผาผลาญสูง ร่างกายจะเผาผลาญอาหารได้ดี แต่ถ้าอัตราการเผาผลาญต่ำจะทำให้เพิ่มน้ำหนักตัวได้เร็วหรือลดน้ำหนักได้ยาก แต่ละคนมีประสิทธิภาพการเผาผลาญพลังงานแตกต่างกัน ซึ่งอัตราการเผาผลาญของร่างกายมาจากพลังงาน 3 ส่วนคือ
พลังงานพื้นฐานที่ใช้ในการทำงานของอวัยวะภายในร่างกาย พลังงานที่ใช้ในการเคลื่อนไหวหรือออกแรง พลังงานที่ใช้ในการย่อยอาหาร

การปรับเปลี่ยนวิธีการบริโภคและการใช้พลังงานจึงมีผลต่อระบบการเผาผลาญของร่างกายได้
นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยอื่นๆที่มีอิทธิพลต่อระบบเผาผลาญ ได้แก่ อายุ เพศ น้ำหนัก ส่วนสูง วิถีการดำเนินชีวิตและองค์ประกอบของร่างกาย (ปริมาณของมวลกล้ามเนื้อ) โดยธรรมชาติระบบการเผาผลาญของคนเราจะลดลงประมาณ 5% ทุกๆ 10 ปี โดยเริ่มหลังจากอายุ 40 ปี ขณะอยู่เฉยๆไม่ได้ทำอะไร เพศชายจะเผาผลาญพลังงานได้มากกว่าเพศหญิง คนที่มีกล้ามเนื้อมากก็จะมีระบบการเผาผลาญสูงกว่าคนที่มีไขมันมาก เพราะเซลล์กล้ามเนื้อเป็นเซลล์ขยันใช้พลังงานได้ดีกว่าเซลล์ไขมันซึ่งเปรียบได้กับเซลล์ขี้เกียจ และท้ายที่สุดสิ่งที่ถูกกำหนดมาให้แต่ละคนตั้งแต่เกิดคือพันธุกรรม ซึ่งถูกโปรแกรมมาแล้วทำให้คนเรามีระบบเผาผลาญแตกต่างกันไป นอกจากนี้ โรคบางชนิด เช่น ไทรอยด์(ทำงานน้อย)ก็ทำให้ระบบการเผาผลาญช้าลงได้


ทำไมน้ำหนักทรงตัวหลังลดความอ้วน
ผู้เชี่ยวชาญอธิบายเรื่องนี้ว่า ขณะที่เราอ้วน ระบบการเผาผลาญยังสูงอยู่ ฉะนั้นเมื่อลดแคลอรีจากอาหารลงมาแม้เพียงเล็กน้อย จึงทำให้น้ำหนักตัวลดลง และหลังจากที่สูญเสียเซลล์ไขมันและเซลล์กล้ามเนื้อไปพร้อมกับการสูญเสียน้ำในระยะแรก ระบบเผาผลาญจะลดต่ำลง ร่างกายจึงต้องการพลังงานในการทำงานน้อยลง

ทุกๆ 1/2 กิโลของเซลล์กล้ามเนื้อที่ลดลง จะทำให้ระบบเผาผลาญทำงานลดลงประมาณ 9 แคลอรี นี่เองเป็นเหตุผลว่า คนที่ลดน้ำหนักจึงอ้วนขึ้นได้ง่ายในเวลาต่อมาถ้าไม่ควบคุมต่อเนื่อง นอกจากนี้ พลังงานที่ร่างกายต้องการจากอาหารก็จะลดน้อยลงไปอีก นั่นหมายถึงว่าปริมาณอาหารที่รับประทานจะต้องน้อยลงตามไปด้วย

ตัวอย่างเช่น นายแดงและนายดำมีน้ำหนักเท่ากันคือ 112 กิโลกรัม โดยที่น้ำหนักเดิมของนายแดงคือ 156 กิโลกรัม ส่วนนายดำหนัก 112 กิโลกรัมมาตลอด นายแดงผู้ลดน้ำหนักโดยการจำกัดอาหารจึงมีระบบเผาผลาญลดลง ทำให้ร่างกายต้องการพลังงานน้อยลงกว่านายดำทั้งๆที่มีน้ำหนักเท่ากัน

ดังนั้น การที่มีน้ำหนักเท่ากันจึงไม่ได้หมายความว่าเราจะต้องการพลังงานเท่ากันเสมอไป หากผ่านการลดน้ำหนักมาก่อน จึงต้องควบคุมการกินอาหารให้น้อยลงไปให้ได้อย่างต่อเนื่อง

6 วิธีกิน เพิ่มระบบเผาผลาญ

1. กินบ่อยแต่แบ่งเป็นมื้อเล็กๆ การกินอาหารวันละ 4-6 มื้อ จะช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญตลอดทั้งวันและลดน้ำหนักได้มากขึ้น คนที่ทิ้งช่วงการกินระหว่างมื้อต่อมื้อนานเกินไป ระบบเผาผลาญจะปรับตัวให้ทำงานช้าลงเพื่อชดเชยกับการไม่ได้กิน แต่ถ้ากินมื้อใหญ่เกินไป ระบบเผาผลาญจะทำงานเสมือนว่าคุณกำลังอดอยาก จึงสงวนแคลอรีทั้งหมดที่กินไว้เพื่อสะสมเป็นเสบียงยามขาดแคลน

2. ห้ามอดมื้อเช้า คนที่งดอาหารเช้าบ่อยๆจะอ้วนง่ายกว่าคนที่กินอาหารเช้าเป็นประจำ ร่างกายคนเราต้องการพลังงานและสารอาหารเพื่อจะทำงานได้ทั้ง 24 ชั่วโมง ดังนั้น การอดอาหารมื้อใดมื้อหนึ่งจึงทำให้ร่างกายเข้าสู่ระบบสงวนพลังงาน โดยการลดอัตราการเผาผลาญลง และทำให้ร่างกายเก็บสะสมพลังงานอย่างเต็มที่ในรูปของไขมัน อาหารเช้าที่มีคุณภาพได้แก่ ข้าว(ซ้อมมือ)ต้มเครื่อง หรือขนมปังไข่ดาว

3.เพิ่มอาหารโปรตีน โดยปกติ อาหารจะช่วยเพิ่มระบบการเผาผลาญ หลังจากที่กินไปแล้ว 1 ชั่วโมง ซึ่งเป็นช่วงที่ทำงานได้ดีที่สุด แต่อาหารโปรตีนต้องการพลังงานเพิ่มขึ้น 25% ในการย่อย ฉะนั้นอาหารว่างที่มีโปรตีนสูงจึงทำให้การเผาผลาญทำงานได้ดีกว่า(เล็กน้อย)เมื่อเทียบกับอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตสูง(โดยที่มีแคลอรีเท่าๆ กัน) แต่ถึงอย่างนั้น ก็ยังไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนที่สรุปว่าอาหารชนิดใดจะมีผลพิเศษในการเพิ่มระบบเผาผลาญ

4.เติมเครื่องเทศรสเผ็ด มีงานวิจัยว่า พริกหรืออาหารรสจัดสามารถเพิ่มระบบเผาผลาญได้ 20% เป็นเวลาถึง 30 นาที งานวิจัยในสตรีชาวญี่ปุ่นรายงานว่า พริกสีแดงช่วยเพิ่มระบบเผาผลาญในร่างกาย โดยเฉพาะเมื่อกินพริกแดงกับอาหารไขมันสูง นอกจากนี้ ยังมีงานวิจัยขนาดเล็ก พบว่านักกีฬาชายที่กินพริกแดงกับอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตสูง มีอัตราระบบเผาผลาญสูงขึ้นทั้งขณะที่มีกิจกรรมและไม่มีกิจกรรม หลังการกินอาหาร 30 นาที แต่ไม่มีหลักฐานยืนยันว่าเพิ่มการทำงานได้นานแค่ไหน ผลดีของการกินพริกคือช่วยให้กินผักได้เพิ่มขึ้น แต่ผลการเพิ่มอัตราการเผาผลาญนั้นเพียงเล็กน้อย จึงต้องใช้ความพอดีในข้อนี้ให้มาก

5.ดื่มน้ำตลอดวัน น้ำเป็นสารอาหารที่สำคัญอย่างหนึ่ง หากดื่มน้ำน้อยไประบบเผาผลาญจะลดลงเหมือนขาดอาหาร โดยตับจะเก็บน้ำไว้ แทนที่จะนำไปใช้ในหน้าที่อื่นๆ เช่น เผาผลาญไขมัน การดื่มน้ำเย็นๆจะช่วยเพิ่มระบบการเผาผลาญได้เล็กน้อยจากการที่ร่างกายต้องรักษาระดับอุณหภูมิในร่างกาย ส่วนเครื่องดื่มอื่นๆ เช่น ชาเขียว มีสารต้านอนุมูลอิสระ EGCG (epigallocatechin gallate) ที่มีฤทธิ์สูง หากดื่มขณะที่กินอาหาร จะช่วยเพิ่มระบบการเผาผลาญ 24 ชั่วโมงได้ 4 % (คาเฟอีนเพียงอย่างเดียวไม่แสดงผลนี้) แม้ชาเขียวจะกระตุ้นระบบเผาผลาญได้ดีกว่าและนานกว่ากาแฟ แต่การดื่มชาเขียวโดยไม่ควบคุมปริมาณอาหารที่กินตลอดทั้งวัน ก็ไม่อาจช่วยให้น้ำหนักลดลงได้

6.เลี่ยงน้ำตาลและของหวาน การกินของหวานมากๆ จะช่วยส่งเสริมให้ระบบเผาผลาญเก็บสะสมไขมันมากกว่าการเผาผลาญไขมันออกไปใช้ นอกจากนี้ น้ำตาลยังเป็นพลังงานส่วนเกินที่ทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มได้ง่าย

ปัจจัยเสริมเร่งการเผาผลาญ

ควรออกกำลังกายแบบแอโรบิคที่เผาผลาญพลังงานในเวลาสั้นๆ และยกน้ำหนักที่จะสร้างกล้ามเนื้อ เพื่อเพิ่มระบบเผาผลาญในระยะยาว ถ้าเรายิ่งสร้างกล้ามเนื้อมากเท่าไร อัตราการเผาผลาญ(ขณะที่อยู่เฉยๆ) ก็จะยิ่งสูงมากขึ้นเท่านั้น เพราะเซลล์กล้ามเนื้อเผาผลาญพลังงานได้มากกว่าเซลไขมัน

การออกกำลังกายแบบแอโรบิค 30 นาที อาจเผาผลาญพลังงานได้มากกว่าการยกน้ำหนัก 30 นาที แต่การยกน้ำหนักกลับจะเพิ่มให้ระบบเผาผลาญทำงานได้นานกว่า ฉะนั้นกฏข้อหนึ่งของการลดน้ำหนักคือ การออกกำลังกายควบคู่กันไปกับการควบคุมอาหารจะช่วยสร้างกล้ามเนื้อเพื่อเพิ่มอัตราการเผาผลาญของร่างกายให้มากขึ้น และคงน้ำหนักที่ลดลงได้

ผู้หญิงบางคนกลัวว่าการออกกำลังกายจะทำให้มีกล้ามเนื้อเป็นมัดๆ ดูแล้วไม่สวยงาม แต่ที่จริงผู้หญิงไม่มีฮอร์โมนเทสโทสเทอโรน (testosterone)มากพอที่จะทำให้กล้ามเนื้อใหญ่เหมือนผู้ชายได้ขนาดนั้น จึงไม่น่าเป็นข้ออ้างในการไม่ออกกำลังกาย

ความเครียดก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้อ้วนได้ โดยเฉพาะอ้วนลงพุง เพราะความเครียดทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอลมีผลให้ระบบเผาผลาญลดลง และที่สำคัญนอนให้เพียงพอ การวิจัยพบว่าผู้ที่นอนน้อยกว่าวันละ7-8 ชั่วโมงจะอ้วนได้ง่าย เนื่องจากร่างกายมีสภาวะเครียดเพิ่มขึ้น

Other Link
ลดน้ำหนักกับ Longderse ปรึกษาฟรี
บทความอื่นๆ

6/04/2554

เคล็ดลับลดพุงในหนึ่งเดือน

Other Link
ลดน้ำหนักกับ Longderse ปรึกษาฟรี
บทความอื่นๆ

รูปร่างอ้วนลงพุงไม่ใช่แค่ปัญหากวนใจ แต่อาจเป็นอันตรายถึงชีวิต การวิจัยพบว่าไขมันสะสมหน้าท้องนำมาซึ่งโรคมากมาย เช่น ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ เบาหวาน การเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ รวมถึงมะเร็งด้วย หลายคนพยายามลดน้ำหนักแต่ก็ไม่สำเร็จ ลองสารพัดสูตรอาหารก็อาจเคยลดได้เร็ว แต่ก็กลับมาอ้วนลงพุงอีก เสียเงินไปกับการลดน้ำหนักซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทั้งนี้เพราะไม่เข้าใจหลักการที่ถูกต้อง ซึ่งหากปฏิบัติอย่างถูกทาง การลดพุงภายในหนึ่งเดือนไม่ใช่เรื่องยากเลย

เลิกอด ลดพุง

ฟังดูแปลก แต่เป็นความจริง หลายคนคิดว่าถ้าอยากผอมต้องอดอาหาร แต่เชื่อหรือไม่ ถ้าคุณอดมื้อเช้าหรือกินมื้อเช้าน้อย เช่น ขนมปังแผ่นเดียว กาแฟแก้วเดียว หรืออดมื้อเย็นสักระยะหนึ่ง อาจทำให้คุณน้ำหนักลดในช่วงแรก แต่จะกลับมาอ้วนได้ในหลัง เคล็ดลับการคุมน้ำหนักคือ "กินอาหารให้ครบ 3 มื้อ เน้นมื้อเช้ากินให้อิ่มและครบห้าหมู่ก่อน 9.00 น. กินมื้อเที่ยงตรงเวลา และสำคัญที่สุดคือการกินมื้อเย็นก่อน 18.00 น." คนที่กินมื้อดึกจะลงพุงได้ง่าย

เลือกสักนิด คิดก่อนกิน

บอกตัวเองว่าเพราะเราตามใจตัวเองจึงมีปัญหารูปร่างอย่างทุกวันนี้ ดังนั้นหากตั้งใจลดน้ำหนักจริง ๆ ต้องเริ่มเลือกของกินบ้าง เลี่ยงของทอด ของมัน ขนมขบเคี้ยว ควรงดเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลมาก เช่น น้ำอัดลม น้ำผลไม้ที่มีน้ำตาลมาก กาแฟ หรือช็อกโกแลตเย็น เครื่องดื่ม แอลกอฮอล์ เพราะเพียง 1 แก้วใหญ่ก็ให้พลังงานเกินเท่ากับกินอาหารมื้อใหญ่ทีเดียว แต่ก็ไม่ต้องถึงกับหย่าขาดกับของชอบ คุณอาจกินของที่ชอบได้สัปดาห์ละหนึ่งครั้ง ในมื้อเช้าสุดสัปดาห์ก็ได้

หาตัวช่วย ที่ไม่ใช่ยาลดความอ้วน

เพราะอาจลดน้ำหนักได้เร็วในช่วงแรก แต่ส่งผลเสียรุนแรงต่อระบบประสาท และเกิดโยโย่กลับมาอ้วนยิ่งกว่าเดิมเมื่อหยุดยา ตัวช่วยที่ดีได้แก่ น้ำเปล่า ต้องดื่มบ่อย ๆ ให้ได้อย่างน้อยวันละ 2 ลิตร (8-10 แก้ว) ไม่ใช่เพื่อให้อิ่มน้ำ แต่ร่างกายต้องใช้น้ำในการเผาผลาญไขมัน คนที่ดื่มน้ำน้อยจึงมีแนวโน้มอ้วนง่าย ผักสดก็เป็นตัวช่วยดูดซับไขมันในอาหารที่ดี ผลไม้อย่างฝรั่งหรือแอปเปิ้ลช่วยแก้หิวระหว่างมื้อได้ มีการใช้สารสกัดจากธรรมชาติบางชนิดเป็นตัวช่วยควบคุมน้ำหนัก เช่น สารสกัดไคโตซานจากเปลือกสัตว์ทะเล สาร HCA จากส้มแขก เพื่อสกัดกั้นไขมัน และสารสกัดจากถั่วขาว เพื่อสกัดกั้นแป้งจากอาหาร ทำให้คุณได้รับพลังงาน ส่วนกินจากอาหารลดลง หรือสารสกัดชาเขียวก็ช่วยเร่งการเผาผลาญไขมันสะสมให้เป็นพลังงาน โดยควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการทดสอบว่าได้ผลและปลอดภัยจริง ใส่ใจอ่านฉลากผลิตภัณฑ์อีกนิดให้แน่ใจว่ามีตรา อย.รับรอง และไม่ควรมีส่วนผสมของครีมเทียมหรือน้ำตาล

นอนเร็ว ก็ผอมเร็ว

อีกเคล็ดลับคือ นอนเร็วแต่หัวค่ำ ไม่เกินสี่ทุ่มนอนหลับให้ได้ไม่ต่ำกว่า 6 ชั่วโมงต่อวัน จะทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนที่ช่วยเผาผลาญพลังงาน แต่ถ้าคุณนอนดึก แม้จะนอนยาวตื่นสายร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนที่ทำให้คุณหิวบ่อย กินเยอะ และสะสมไขมันมากขึ้น

แม้จะมีเคล็ดลับและตัวช่วยมากมาย แต่ผลสำเร็จก็ขึ้นกับความตั้งใจ อาจเพิ่มการออกกำลังกายอีกเพียงเล็กน้อย เช่น เดินต่อเนื่อง 30 นาที ก็จะช่วยให้ลดน้ำหนักได้เร็วยิ่งขึ้น ลองทำตามเคล็ดลับเหล่านี้อย่างจริงจัง ติดตามผลคืบหน้าทุก ๆ สัปดาห์ แล้วเตรียมพบกับรูปร่างใหม่ ชีวิตใหม่ ที่ไม่ลงพุงอึดอัดเหมือนเดิม

Other Link
ลดน้ำหนักกับ Longderse ปรึกษาฟรี
บทความอื่นๆ